เรื่องราวของ Kap Dwa ถูกบันทึกไว้ว่าเมื่อปี 1673 ลูกเรือชาวสเปนได้พบ Kap Dwa มนุษย์ 2 หัว ที่มีความสูงประมาณ 3.5 เมตร ลูกเรือชาวสเปนได้พยายามจับตัว Kap Dwa และเกิดการต่อสู้กัน จนทำให้ Kap Dwa ต้องจบชีวิตลง
จากนั้นร่างของ Kap Dwa ถูกส่งขายให้ได้นักสะสมวนเวียนไปมาหลายรายทั้งในอังกฤษและ สหรัฐอเมริกา
โดยจากบันทึกพบว่าร่างของ Kap Dwa ถูกนำมาจัดแสดงในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1980 และในอังกฤษเมื่อปี 1900
ปัจจุบัน Kap Dwa ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของแปลก The Antique Man Ltd ในเมืองบอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา โดยมี Robert Gerber และภรรยาเป็นเจ้าของ
แต่ทาง Robert Gerber ได้ข้อมูลว่า ซากของ Kap Dwa นั้นถูกพบโดย ชาวบ้านในประเทศปารากวัย จนกระทั่งกัปตันชาวอังกฤษชื่อ George Bickle ได้พบกับซากศพ จึงพาอังกฤษ และไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองแบล็กพูล และจัดแสดงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ Kap Dwa ยังคงเป็นปริศนา และไม่มีใครทราบว่าความจริงเป็นเช่นไร แต่นักวิทยาศาสตร์ที่ได้พิสูจน์ต่างก็ไม่มีใครค้านว่า Kap Dwa ไม่ใช่มนุษย์
ที่มา : http://www.nextsteptv.com
____________________
เครดิต :
________________________________
อ้างอิง :
________________________________
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ Kap Dwa ยังคงเป็นปริศนา และไม่มีใครทราบว่าความจริงเป็นเช่นไร แต่นักวิทยาศาสตร์ที่ได้พิสูจน์ต่างก็ไม่มีใครค้านว่า Kap Dwa ไม่ใช่มนุษย์
ที่มา : http://www.nextsteptv.com
____________________
เครดิต :
________________________________
อ้างอิง :
________________________________
12 มี.ค.สำนักข่าวเดลี่ มิรเรอร์รายงานข่าว พบโครงกระดูกมนุษย์มัมมี่ผู้หญิง ข้างๆกับมัมมี่เด็ก ล่าสุดทีมสำรวจเปิดเผยว่าโครงกระดูกนี้ไม่ใช่ของมนุษย์..
นักสำรวจพบโครงกระดูกลึกลับ มีนิ้วมือสามนิ้วและนิ้วเท้าสามนิ้ว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่อาจจะเป็นการค้นพบเอเลี่ยน ที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับมนุษย์
ทีมวิจัยกล่าวว่า ซากมัมมี่ลึกลับนี้มีชื่อว่า ‘มาเรีย’ ถูกพบในประเทศเปรู ข้างๆกันพบมัมมี่เด็กอายุ 9 เดือน
ขั้นแรกผลการสำรวจเปิดเผยว่า มัมมี่มาเรียน่าจะเป็นซากศพของมนุษย์ เพราะมีโครโมโซมจำนวน 23 คู่ แต่ขณะเดียวกันก็พบหลายสิ่งหลายอย่างที่ขัดแย้ง แสดงความน่าสงสัยว่าเธออาจไม่ใช่มนุษย์
ศาสตราจารย์ คอนสแตนติ โครอตโคฟ จากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติรัสเซีย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นมัมมี่ผู้ชายอายุกว่า 6,500 ปีจำนวน 4 คน ในประเทศเปรู ที่ถูกพบโดยเพื่อนร่วมงานของเขา
เขาให้สัมภาษณ์กับสปุกนิก นิวส์ ของรัสเซียว่า “มัมมี่มาเรียมี 2 แขน 2 ขา บนศรีษะมี 2 ตา และ1ปาก เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ 3 มิติ ทำให้เห็นโครงกระดูกของพวกเขา เนื้อเยื่อมีลักษณะทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีที่บ่งชี้ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ การตรวจสอบดีเอ็นเอพบโครโมโซม 23 คู่เหมือนคนทั่วไป ส่วนมัมมี่เพศชายทั้ง 4 มีโครโมโซมวายที่เป็นโครโมโซมเพศชาย ลักษณะที่ปรากฏเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง แต่มีโครงสร้างทางกายวิภาคที่ต่างจากมนุษย์ออกไป”
ขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาร่างมัมมี่มาเรียและมัมมี่เด็ก โดยเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงเพิ่มเติม ซึ่งเว็บไซต์ Gaia.com ได้เปิดเผยวิดีโอการค้นพบมัมมี่ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ต่างดาว และตั้งสมติฐานว่านี่อาจเป็นมนุษย์ต่างดาว
ซึ่งศาสตราจารย์ คอนสแตนติ โครอตโคฟก็เห็นด้วย พร้อมกล่าวว่า “พวกเขาอาจเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือไม่ก็อาจเป็นมนุษย์หุ่นยนตร์ชีวภาพ มัมมี่มาเรียและลูกของเธอ อาจเป็นตัวแทนจากอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่ามนุษย์ ประมาณ 1,000 ปี”
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_834109
____________________
เครดิต :
________________________________
อ้างอิง :
________________________________
เขาให้สัมภาษณ์กับสปุกนิก นิวส์ ของรัสเซียว่า “มัมมี่มาเรียมี 2 แขน 2 ขา บนศรีษะมี 2 ตา และ1ปาก เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ 3 มิติ ทำให้เห็นโครงกระดูกของพวกเขา เนื้อเยื่อมีลักษณะทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีที่บ่งชี้ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ การตรวจสอบดีเอ็นเอพบโครโมโซม 23 คู่เหมือนคนทั่วไป ส่วนมัมมี่เพศชายทั้ง 4 มีโครโมโซมวายที่เป็นโครโมโซมเพศชาย ลักษณะที่ปรากฏเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง แต่มีโครงสร้างทางกายวิภาคที่ต่างจากมนุษย์ออกไป”
ขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาร่างมัมมี่มาเรียและมัมมี่เด็ก โดยเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงเพิ่มเติม ซึ่งเว็บไซต์ Gaia.com ได้เปิดเผยวิดีโอการค้นพบมัมมี่ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ต่างดาว และตั้งสมติฐานว่านี่อาจเป็นมนุษย์ต่างดาว
ซึ่งศาสตราจารย์ คอนสแตนติ โครอตโคฟก็เห็นด้วย พร้อมกล่าวว่า “พวกเขาอาจเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือไม่ก็อาจเป็นมนุษย์หุ่นยนตร์ชีวภาพ มัมมี่มาเรียและลูกของเธอ อาจเป็นตัวแทนจากอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่ามนุษย์ ประมาณ 1,000 ปี”
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_834109
____________________
เครดิต :
________________________________
อ้างอิง :
________________________________