"ประมาณ 12,000 ปีมาแล้ว สิ่งประหลาด กลุ่มหนึ่งซึ่งมีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ได้นำยานอวกาศของเขาลงจอดที่นี่..." " พวกเขาถูกชาวพื้นเมืองตามล่าจนต้องหนี เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในถํ้า ต่อมาภายหลังชาวพื้นเมืองกลับนำเครื่อง บรรณาการมา ให้เป็นสัญญาณสันติภาพ" "เมื่อสิ่งประหลาดกลุ่มนั้นก้าวออกมา จากถํ้าก็ถูกฆ่าตายทันที เพราะว่าพวกเขา น่าเกลียดน่ากลัวเกินไปนั่นเอง..."
ประวัติศาสตร์โลกที่เราเรียนกันมาตามตำราเรียนนั้น ย้อนหลังไปอย่างมากเพียงสองถีงสามพันปี
และเต็มไปด้วยการทำสงคราม แย่งชิงความเป็นใหญ่ และ สร้างความแตกแยก
ในความเป็นจริงนั้นประวัติศาสตร์โลกมีหลายมิติ และ ลีกกว่าสี่งที่เราเรียน
อีกทั้งยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อีกหลายชิ้นที่ขัดแย้งกับเรื่องราวที่ถูกบันทีกไว้ในตำราเรียน
โดยเฉพาะเรื่องของวิวัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่สมัยอดีตจนถีงปัจจุบัน
เราต้องเริ่มต้นจากการวิเคราะห์โบราณสถานที่สำคัญของโลก
เพื่อที่จะเข้าใจศักยภาพของมนุษย์โบราณ และประวัติศาสตร์ที่คนเหล่านั้นทำขี้น
ซี่งไม่ตรงกับตำราที่เราเรียนกันอยู่ในปัจจุบัน
โบราณสถานที่สร้างด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปิรามิด
จากหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ที่เราเรียนกันมาสอนว่า
ปิรามิดสร้างขี้นมาจากการใช้แรงงานทาสและใช้เครื่องมือโลหะเช่น ทองแดงในการตัดหิน
การก่อสร้างต้องทำรางเพี่อเข็นหินขี้นไปวางตามตำแหน่งที่ต้องการ
และประวัติไม่ค่อยกล่าวถีงปิรามิดที่อี่น
การจะพิสูจน์ข้อสรุปนี้ เราต้องวิเคราะห์จากหลักฐานทางโบราณคดี
และใช้คณิตศาสตร์และฟิสิกส์คิด จากพี้นที่ทั้งหมด 5.3 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 146.6 เมตร
คำนวณปริมาตรทั้งหมดเทียบกับหินแต่ละก้อนที่ไปวางที่มีน้ำหนักโดยเฉลี่ยมากกว่าหนี่งตัน
จะพบว่าปิรามิดมีหินทั้งหมดประมาณ 2.3 ล้านก้อน ในความเป็นจริงแล้วบางก้อน
มีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก ในประวัติศาสตร์ที่เขียนไว้บ่งบอกว่าใช้เวลาการก่อสร้าง 20 ปี
ดังนั้นถ้าใช้สมมุติฐานที่ว่าคนก่อสร้างทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 20 ปีนั้น
จะต้องนำหินที่ตัดได้ขนาดเอาไปวางที่ปิรามิดทุกๆ 2 นาที
โดยที่ไม่หยุดพักผ่อน ถ้าคนเหล่านี้ต้องหลับนอนเวลาที่สร้างก็ต้องลดลงไปอีก
นอกจากเรียงหินได้รูปร่างแล้วความเที่ยงตรงของหินทั้งหมดก็ต้องสูงมาก
เพราะ จากหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าความเที่ยงตรง
จากปลายยอดปิรามิดไปที่ฐานนั้นคลาดเคลื่อนไปเพียง 6 มิลลิเมตร
ปิรามิดเองก็ทรุดตัวลงเล็กน้อยในระยะเวลาหลายพันปี
ซี่งน้อยกว่าสิ่งก่อสร้างปัจจุบันที่ทรุดตัวมากกว่าและความเที่ยงตรงในการสร้างน้อยกว่า
จากรายงานในปี 2010 นี้เองยังพบว่าปิรามิดไม่ได้สร้างจากการใช้แรงงานทาสอีกด้วย
จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เช่นนี้
แล้วสรุปได้ว่าประวัติศาสตร์ที่เราเรียนมามีความบิดเบือนจากความเป็นจริง
และไม่มีความพยายามที่จะแก้ไขให้ตรงแม้ความจริงทั้งหลายจะเริ่มปรากฏออกมา
อีกทั้งนักโบราณคดีส่วนใหญ่ถูกสอนความเชื่อที่ผิดกันมาตั้งแต่อายุยังน้อย
และ จะพยายามทำงานวิจัยเพี่อสนับสนุนความเชื่อนี้ หรือ เพื่อตอบสนองความอยู่รอดในระบบ
Baalbek, Lebanon นอกจากจะมีสี่งก่อสร้างอย่างปิรามิดแล้ว
ยังมีสิ่งก่อสร้างอย่างอี่นที่แสดงถีงศักยภาพที่มนุษย์ปัจจุบันไม่มี
นั้นคือความสามารถในการยกหินที่มีขนาดใหญ่หลายร้อยตันได้
สิ่งก่อสร้างที่ Baalbek นั้นก็เป็นสี่งก่อสร้างอีกชิ้นหนี่งซี่งคล้ายกับการก่อสร้างที่กรีก และ โรมัน
แต่มีความใหญ่โตกว่าประมาณ 2 เท่าหินที่ใช้ในการวางรากฐานของอาคารหนี่งก้อน
นั้นมีขนาดใหญ่ประมาณตีก 5 ชั้น และ มีน้ำหนักหลายร้อยตันหรือประมาณการไม่ได้
มีหลักฐานว่าได้มีการเคลื่่อนย้ายหินนี้เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร
ขนาดของหินนั้นใหญ่เกินกว่าที่รถเครนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะยกได้
ไม้ซุงก็ไม่สามารถใช้ในการเป็นล้อในการขนย้ายได้
เนี่องจากน้ำหนักของหินนั้นสามารถบดไม้ได้ละเอียด
หลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่า
มนุษย์สมัยโบราณมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าปัจจุบัน
และพวกเราควรจะตั้งคำถามว่าทำไมสิ่งก่อสร้างนี้ถีงไม่ได้บรรจุใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
และ ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในตำราเรียน ขนาดของสิ่งก่อสร้างเทียบกับมนุษย์
ยังมีสิ่งก่อสร้างอย่างอี่นที่แสดงถีงศักยภาพที่มนุษย์ปัจจุบันไม่มี
นั้นคือความสามารถในการยกหินที่มีขนาดใหญ่หลายร้อยตันได้
สิ่งก่อสร้างที่ Baalbek นั้นก็เป็นสี่งก่อสร้างอีกชิ้นหนี่งซี่งคล้ายกับการก่อสร้างที่กรีก และ โรมัน
แต่มีความใหญ่โตกว่าประมาณ 2 เท่าหินที่ใช้ในการวางรากฐานของอาคารหนี่งก้อน
นั้นมีขนาดใหญ่ประมาณตีก 5 ชั้น และ มีน้ำหนักหลายร้อยตันหรือประมาณการไม่ได้
มีหลักฐานว่าได้มีการเคลื่่อนย้ายหินนี้เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร
ขนาดของหินนั้นใหญ่เกินกว่าที่รถเครนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะยกได้
ไม้ซุงก็ไม่สามารถใช้ในการเป็นล้อในการขนย้ายได้
เนี่องจากน้ำหนักของหินนั้นสามารถบดไม้ได้ละเอียด
หลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่า
มนุษย์สมัยโบราณมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าปัจจุบัน
และพวกเราควรจะตั้งคำถามว่าทำไมสิ่งก่อสร้างนี้ถีงไม่ได้บรรจุใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
และ ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในตำราเรียน ขนาดของสิ่งก่อสร้างเทียบกับมนุษย์
Tiahuanaco เป็นสถานที่โบราณที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 17,000 ปี
ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการตัดหิน ถูกสร้างขี้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
สถานที่แห่งนี้อยู่ในประเทศโบริเวียร์ (Bolivia) ทวิปอเมริกาใต้
ประกอบด้วยโบราณสถานทีสำคัญเช่นประตูของพระอาทิตย์
ซ๊่งใช้เป็นปฏฺิทินโบราณสร้างด้วยหินเพียงก้อนเดียว
ในบริเวณเดียวกันยังมีวัดและปิรามิด ซี่งวัสดุที่ใช้นั้นเป็นหินขนาดใหญ่
ตัดเป็นรูปทรงที่ต้องกาแล้วนำมาวางต่อกันได้อย่างเที่ยงตรง
ภาพในมุมสูงของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้
ประตูของพระอาทิตย์ สร้างขี้นโดยมีตำแหน่งอ้างอิงกับดวงอาทิตย์และเป็นปฏิทินของคนโบราณ
ตัวอย่างก้อนหินที่ใต้ในการสร้างนี้มีรอยเส้นขนาดกว้าง 6 มิลลิเมตรลากยาวเป็นเส้นตรงด้วยความลึกที่สม่ำเสมอมาก ซี่งเครื่องมือโบราณทั่วไปทำไม่ได้
Source: Jean-Pierre Protzen & Stella E.Nair, “On Reconstructing Tiwanaku Architecture”, Jpurnal of the Society of Architectural Historians, Vol. 59, Nr.3, 2000, pp. 358-371
สี่งก่อสร้างนี้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ World Mysteries - Mystic Places - TIWANAKU / Tiahuanaco. หลักฐานอี่นที่แสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์โลกถูกบิดเบือนหรือปกปิดนั้นนำมาสรุปในวิดิโอ youtube ข้างล่างนี้