เรื่องลึกลับจากทั่วโลก All mystery world

รวมเรื่องราว พลังแห่งจิตนาการ,โลกลี้ลับ,UFO,มนุษย์ต่างดาว,อารยธรรมโบราณ,ปริศนาต่างๆ,จากทั่วทุกมุมโลก

  • Homeหน้าหลัก
  • โลกต่างดาวโลกต่างดาว
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • โลกต่างมิติโลกต่างมิติ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • โลกลี้ลับโลกลี้ลับ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • จักรวาลจักรวาล
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • อารยธรรมโบราณอารยธรรมโบราณ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • ภัยพิบัติภัยพิบัติ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • พลังแห่งจินตนาการพลังแห่งจินตนาการ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
You are here : Home »



นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์  นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดโครงการ “ค้นหาคนไทยคนแรกไปอวกาศ” ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่มบริษัทยูนิลิเวอร์ประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นระหว่างเดือน พฤษภาคม – ธันวาคม 2556



โครงการนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรม AXE Apollo Space Academe ที่จัดขึ้นทั่วโลก โดยจะมีการคัดเลือกคนไทย 3 คนไปเข้าค่ายอบรมด้านอวกาศที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตในห้วงอวกาศ การปรับสภาพร่างกายก่อนที่จะคัดเพียง 22 คนเท่านั้นที่จะได้ไปทัวร์นอกโลก

เกณฑ์การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการนี้

1.สมัครเป็นสมาชิกสถาบัน แอ๊กซ์ อพอลโล สเปซ อคาเดมี ที่ www.AXEApoolo.com โดยบอกเหตุผลว่าเพราะเหตุใด คุณถึงเหมาะสมที่สุดที่จะได้รับคัดเลือกไปอวกาศ และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด 100 คน จะผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 เพื่อทำวีดีโอคลิปโดยที่จะต้องทำชุดอวกาศขึ้นมาเอง และออกไปโชว์ความเป็นฮีโร่ ในรอบนี้จะตัดสินจากยอดวิวและคะแนนจากการตัดสินของคณะกรรมการเพื่อหาผู้โชคดีเข้ามาเป็น 1 ใน 3 ผู้โชคดี

 2.สมัครเข้าร่วมรายการแฟนพันธุ์แท้ ตอน แฟนอพอลโล่ ซึ่งผู้ชนะในรายการจะก้าวมาเป็น 1 ใน 3 ผู้โชคดี
3.จากการจับฉลากผู้โชคดี จากการส่งชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์แอ๊กซ์แบบสเปรย์ ก็มีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี 1 ใน 3








ที่มา : Mthai News
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews




วันที่ 28 เม.ย. ชาวบ้านใน ต.แม่นะ อ.เชียงดาว เชียงใหม่ พากันไปดูจิ้งจก 2 หัว ที่บ้านนางสร้อย และนายวัตสันต์ บุญมา อายุ 36 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ในหมู่บ้านแม่อ้อนอก ต.แม่นะ พบจิ้งจก 2 หัวตัวเล็กถูกดูแลอย่างดี เลี้ยงไว้ในแก้วน้ำ นายวัตสันต์กล่าวว่า จู่ๆ จิ้งจกตัวนี้ก็หล่นลงมาหน้าบ้าน จึงเก็บไว้บูชา เพราะเชื่อว่าจะให้โชคให้ลาภ ไม่คิดที่จะขายใครจะเก็บไว้เป็นสิริมงคลให้กับคนในบ้าน








ที่มา :  http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXlOVEk1TURRMU5nPT0=
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 เม.ย.นายชารลส์ เหลียง ช่างภาพวัย 33 ปี สามารถบันทึกภาพสุดแสนงดงามและน่าประทับใจ เป็นภาพชายหาดแคลิฟอร์เนียปรากฎเป็นสีเงินเข้ม เหมือนฉากในภาพยนตร์เรื่อง "Contact" เมื่อนักดาราศาสตร์หญิงได้พบเห็นชายหาดลึกลับบนท้องภาพที่มีดาวต่างๆ อยู่ใกล้กับกาแล๊กซี่

โดยนายชารลส์กล่าวว่า เขาสามารถจับภาพ "ปรากฎการณ์หายาก" ในคืนหนึ่งบนชายหาด "ลินด้า มาร์"ในเมืองแพ็คฟิค้า ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แสงเรืองดังกล่าวไม่เป็นอันตราย ทว่าเป็นอุปสรรคต่อการว่ายน้ำของผู้คน รวมทั้งนักเล่นกระดานโต้คลื่น ซึ่งต้องหายใจใกล้กับพื้นผิวน้ำที่ีปรากฎเป็นสีน้ำเงินเข้มดังกล่าว และการบันทึกภาพนี้ทำให้เขาต้องใช้เวลานานมากกว่าการบันทึกภาพทั่ว ๆ ไป และว่า ปรากฎการณ์นี้เกิดจากคลื่นเรืองแสงน้ำเงิน จากการที่สาหร่ายทะเลที่ถูกรบกวน ทำให้เกิดการปลดปล่อยแสงน้ำเงินสดใสออกมา













ที่มา : http://news.sanook.com/
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews

เป็นเวลานานกว่า 10 ปี ที่มีการถกเถียงกันว่า โครงกระดูกความยาวเพียง 6 นิ้ว ที่ถูกพบในทะเลทรายประเทศชิลีเมื่อปี 2003 มีลักษณะประหลาด หัวโตคล้ายกับเอเลี่ยนหรือมนุษย์ต่างดาวนั้น แท้จริงแล้วเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก หรือว่า เป็นเพียงซากของเด็กทารกกันแน่



ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Stanford ของสหรัฐ เผยผลการตรวจพบว่า เป็นเพียงโครงกระดูกมนุษย์
โดยก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้ตั้งสมมติฐานว่า มันอาจจะเป็นซากของทารก ซากของลิงซิมแปนซี หรือแม้กระทั่งมนุษย์ต่างดาว โดยทีมนักวิจัยได้นำเอาชิ้นส่วนไปตรวจเพื่อเปรียบเทียบพันธุกรรม พบว่าเป็นซากทารกเพศชาย ที่มีโครงสร้างเป็นมนุษย์ ทั้งทางเดินอาหาร การหายใจ และกระบวนการขับถ่าย


อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงสร้างที่มีขนาดเล็ก และแปลกประหลาด ทำให้หลายคนยังอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วเป็นซากของมนุษย์จริงหรือไม่






















ที่มา : http://news.mthai.com/world-news/232632.html
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews



วันที่ 22 เม.ย. (วานนี้)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่เมืองซันติอาโก เอล เอสเตโร ประเทศอาร์เจนตินา ได้เกิดเหตุการณ์มีแสงสว่างวาบบนท้องฟ้าคล้ายกับวัตถุจากนอกโลก โดยแสงดังกล่าวคล้ายว่ากำลังจะตกลงมาบนพื้นโลกก่อนจะสว่างวาบกลางอากาศและดับหายไป ซึ่งในขณะนั้นที่เมืองดังกล่าวกำลังจัดงานคอนเสิร์ตและมีผู้สามารถถ่ายคลิปไว้ได้















ที่มา : http://news.mthai.com/world-news/232239.html
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews








ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews








ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews








ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews





หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Prestige ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการห้ำหั่นกันของนักมายากลสองคนเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง โดยรู้ไหมว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ด้วยนั่นก็คือ "นิโคลา เทสลา" ชายที่เป็นผู้ที่สร้างเครื่อง "ย้ายร่าง" ให้กับโรเบิร์ต แองเจียร์ ที่นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน นั่นเอง และวันนี้หากใครเปิดเข้าเว็บเสิร์จเอ็นจิ้นท์ยอดฮิตอย่าง google จะเห็นว่า โลโก้วันนี้ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของนักประดิษฐ์ผู้นี้...

ในโลกแห่งความเป็นจริง นิโคลา เทสลา คือนักประดิษฐ์ชาวโครเอเชียผู้คิดค้นระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเขาเป็นบิดาของอุปกรณ์ไฟฟ้าและการสื่อสารไร้สายก็ว่าได้ เพราะเขาเป็นผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา หรือ Tesla coil และยังค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลา อีกทั้งยังเป็นผู้ค้นพบวิธีการสื่อสารแบบไร้สายอีกด้วย แต่เรื่องที่คนส่วนใหญ่พูดถึงเขานั้นจะเกี่ยวกับความเพี้ยนของเขามากกว่า


นิโคลา เทสลา นั้นเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อ สมิลจาน ในประเทศโครเอเชีย ในเวลาเที่ยงคืนของระหว่างวันที่ 9 กับวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1856 ซึ่งการที่เขาตกฟากตอนเที่ยงคืนตรง ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่น่าพิศวงของนักประดิษฐ์คนนี้ ทางด้าน มิลูติน พ่อของเขาหวังจะให้เขาเป็นนักบวชเหมือนกับตนเอง แต่ นิโคลา กลับเหมือนดจูกาแม่ของเขา ที่ชอบประดิษฐ์เครื่องทุ่นแรงต่างๆ ไว้ใช้เองในบ้านมากกว่า โดยเขาได้ฉายแววของการเป็นนักประดิษฐ์ตั้งแต่เด็ก สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกของเขาคือเครื่องมือจับกบที่ทำมาจากเชือกกับตะขอ และใช้ได้ผลดีมากถึงขนาดที่ว่าแทบจะไม่มีกบเหลืออยู่ในหมู่บ้านของเขาเลย


นอกจากนี้เขายังได้สร้างระหัดวิดน้ำชนิดไม่มีใบพัด ซึ่งเจ้าสิ่งนี้เองที่เป็นแรงจูงใจให้เขาสร้างเครื่องกังหันน้ำที่ไม่มีใบพัดในเวลาต่อมา นอกจากนี้เขายังได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้พลังงานจากแมลงจูน (June Bugs) ที่เขาได้จับเอาแมลงจูนแบบเป็นๆ ถึง 16 ตัว มาติดกาวลงบนใบพัดกังหันอันเล็กๆ โดยเมื่อแมลงจูนกระพือปีก นั่นก็คือกลไกที่ทำให้กังหันนั้นหมุนได้นั่นเอง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เด็กคนหนึ่งมากินแมลงจูนจากสิ่งประดิษฐ์ของเขา นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขาไม่แตะต้องแมลงใดๆ อีกเลย




นอกจากเขาจะเกิดมาพร้อมสมองอันชาญฉลาดแล้ว เขายังมีพลังจิตอีกด้วย โดยตั้งแต่เด็กเขามักจะเห็นแสงไฟแวบเข้าตาตามด้วยภาพหลอน และหลายครั้งที่เพียงแค่เขาได้ยินชื่อของสิ่งของ เขาก็จะเกิดภาพรายละเอียดของสิ่งของชิ้นนั้นๆ ขึ้นในใจ และนั่นคือสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้เขาเป็นอย่างมาก

ครั้งหนึ่งเขาเคยล้มป่วยเป็นโรคประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคนั้นทำให้ประสาทรับรู้ต่างๆ ของเขาไวต่อสิ่งเร้ามากกว่าปกติ แค่เพียงได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดินก็ทำให้เขาทรมานเป็นอย่างมาก จนเขาต้องนำแผ่นยางมาวางรองไว้ที่ขาเตียงเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ อีกทั้งการอยู่ในสถานที่ที่มีแสงจ้า นอกจากจะทำให้เขาปวดตาแล้ว มันยังแผดเผาผิวหนังของเขาจนเป็นแผลพุุพองอีกด้วย แต่หลังจากที่อาการประหลาดของเขาทุเลาลง เขาก็ได้รู้แจ้งถึงกรรมวิธีสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับอันโด่งดัง

ทว่าด้วยอาการประหลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ทำให้เขากลัวการสัมผัสทางร่างกายกับบุคคลอื่น เขาจึงปฏิเสธความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม และการแตะเนื้อต้องตัวหรือการจับมือกับใคร ได้แต่โกหกว่ามือของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง อีกทั้งเขายังมีพฤติกรรมแปลกๆ อย่างการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันซ้ำกันหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะได้จำนวนที่หารด้วย 3 ลงตัว ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็จะทำใหม่จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งจำนวนครั้งที่เขาชอบเป็นพิเศษ คือ 27 เพราะมันเท่ากับเอา 3 มายกกำลัง 3 นอกจากนั้นเขายังกำหนดปริมาณอาหารที่เขากินในแต่ละมื้อ ด้วยการนำไม้บรรทัดมาวัดดูว่าภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารของเขานั้นมีความจุเท่าใด



โดยในปี ค.ศ. 1884 เขาได้เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่ไม่มีเงินติดกระเป๋าแม้แต่สตางค์แดงเดียว จะมีก็เพียงสมองอันชาญฉลาดของเขาเท่านั้น ต่อมาเขาได้ค้นพบมอเตอร์เหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1888 และเขาก็ได้พยายามขายสิทธิบัตรมอเตอร์ไฟฟ้านี้ แต่ก็ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจนต้องไปเป็นกรรมกรในนิวยอร์กอยู่หลายเดือน ซึ่งเขาต้องย่ำต๊อกอยู่กว่า 10 ปี กว่าจะสามารถทำให้มอเตอร์เหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้รับการยอมรับ จึงทำให้ชื่อของเขาถูกนำมาใช้เป็นหน่วยหลักของแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อเป็นเกียรติในเวลาต่อมา

แต่เมื่อนึกถึงนักประดิษฐ์ ผู้คนมักจะนึกถึง โทมัส เอดิสัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ นิโคลา เทสลา นั้นดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีแนวคิดที่ต่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว เทสลานั้นเป็นเจ้าของแนวความคิดเรื่องไฟฟ้ากระแสสลับ ที่สามารถให้พลังไฟฟ้าในขอบเขตที่กว้างกว่าไฟฟ้ากระแสตรง ที่เป็นแนวคิดของเอดิสัน โดยเอดิสันได้คิดค้นเก้าอี้ไฟฟ้าที่ใช้ในการประหารนักโทษขึ้นมา เพียงเพื่อแสดงให้เห็นอันตรายจากการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับเท่านั้น ซึ่งว่ากันว่าอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เอดิสันนั้นไม่เข้าใจหลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับตามที่เทสลาอธิบาย นี่จึงเป็นการประกาศว่าเอดิสันไม่ยอมรับสิ่งประดิษฐ์ของเทสลานั่นเอง


ที่น่าเศร้าก็คือนักประดิษฐ์อย่างเขา กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนิวยอร์ค ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ในขณะที่เขามีอายุได้ 86 ปี ซึ่งไม่สามารถระบุวันเวลาที่แน่นอนของการเสียชีวิตได้ แต่มีการคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างช่วงบ่ายของวันที่ 5 มกราคม ถึงช่วงเช้าของวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1943 โดยตลอดชีวิตของเขานั้นถูกคนในวงการวิทยาศาสตร์ดูถูกในความคิดของเขาที่ดูจะเพี้ยนๆ อีกทั้งประชาชนทั่วไปก็แทบจะไม่มีใครรู้จักชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นในการ์ตูนยอดฮิตเรื่องซูเปอร์แมนยังนำชื่อของเขาและสิ่งประดิษฐ์ของเขามาแต่งเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ชื่อ"เทสลา" ที่พยายามทำลายล้างโลกด้วยเครื่องยิงลำแสงมหาประลัย หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Death Ray

หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง เอฟบีไอได้สั่งการให้สำนักงานทรัพย์สินคนต่างชาติ หรือ The Office of Alien Property เข้ายึดทรัพย์สินทุกชิ้นของเขา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเนื่องจากเขาได้รับสัญชาติอเมริกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 แล้ว โดยว่ากันว่าจุดประสงค์ที่กระทำการเช่นนี้ก็เพื่อค้นหาข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เขาได้เคยคิดค้นขึ้นมานั่นเอง

บั้นปลายชีวิตของเขาจึงแตกต่างจาก โทมัส เอดิสัน มาก ในขณะที่ เอดิสัน กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่ได้รับการเชิดชูว่าเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์ แต่เขากลับเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยนในสายตาของคนทั่วไป เขาจึงได้ชื่อว่าเป็น "นักประดิษฐ์ที่โลกลืม"





เห็นแล้วมีทึ่ง! คลิป ขดลวด Tesla Coil ของ นิโคลา เทสลา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต






ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/26340
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews








ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews



องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซ่า ประกาศค้นพบดาวเคราะห์ 2 ดวงใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับชีวิตบางรูปแบบจะเจริญเติบโต

วิลเลี่ยม โบรัคกี้ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า นาซ่าค้นพบดาวสอง ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุด ซึ่งดาวทั้งสองดวงนี้มีชื่อเรียกว่า ดาว Kepler-62-e และดาวKepler-62-f โดยดาวทั้งสองดวงโคจรรอบดาวดวงเดียวกัน คือ ดาวแคระสีส้มดวงหนึ่ง และอยู่ติดกัน โดยอยู่ใกล้กันกว่าที่โลกอยู่ใกล้กับดาวอังคาร

ดาวKepler-62-eและKepler-62-fมีความกว้างกว่าโลกเล็กน้อย ดาว Kepler-62-eมีอุณหภูมิร้อนกว่าเล็กน้อย เหมือนกับอุณหภูทิที่ฮาวาย ขณะที่ดาว Kepler-62-fจะมีอุณหภูมิเยือกเย็นกว่าเล็กน้อย เหมือนกับรัฐอะแลสก้า ของสหรัฐฯ โดยนักวิทยาศาสตร์ดาวทั้ง2 ที่ถูกค้นพบใหม่ เหมาะสำหรับชีวิตบางรูปแบบจะเจริญเติบโต






ที่มา : http://morning-news.bectero.com
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews


งานวิจัยพบคาบสมุทรในทวีปแอนตาร์กติกาแถบขั้วโลกละลายเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในรอบพันปี โดยการละลายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อน และการละลายอย่างฉับพลันนี้อาจทำให้ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งที่ยื่นไปในมหาสมุทรพังทลายลงมาได้ ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นหากการละลายยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่เกิดขึ้นหมายถึงคาบสมุทรแอนตาร์กติกา (Antarctic Peninsula) ได้ร้อนขึ้นระดับที่แม้แต่การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเพียงเล็กน้อยก็นำไปสู่การละลายของน้ำแข็งในช่วงหน้าร้อนได้มโหฬาร” เนริลี อาบรัม (Nerilie Abram) ผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) และองค์การสำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษ (British Antarctic Survey) กล่าว

อีริค สไตจ์ (Eric Steig) ผู้ร่วมวิจัยและศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) สหรัฐฯ กล่าวว่า การละลายของน้ำแข็งในคาบสมุทรแอนตาร์กติก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีป มีสาเหตุหลักๆ มาจากภาวะโลกร้อนโดยฝีมือมนุษย์ ซึ่งคาบสมุทรดังกล่าวเป็นหนึ่งในสถานที่ร้อนขึ้นเร็วที่สุดในโลก และการวิจัยอื่นๆ ก่อนหน้านี้เผยให้เห็นว่า ฤดูกาลละลายของน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกายาวนานผิดปกติ

เพื่อศึกษาภูมิอากาศในอดีตของแอนตาร์กติกาไลฟ์ไซน์ระบุว่า ทีมศึกษาได้เจาะลึกลงไปถึง 364 เมตรในแกนน้ำแข็งของเกาะเจมส์ รอสส์ (James Ross Island) ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ปลายตะวันออกเฉียงเหนือของแอนตาร์กติกา โดยแกนน้ำแข็งได้ให้ร่องรอยของอุณหภูมิในอดีตของแอนตาร์กติกา และมีชั้นของของน้ำแข็งที่ละลายในหน้าร้อน และแข็งตัวขึ้นใหม่หลังจากนั้น ซึ่งมองเห็นได้จากแกนน้ำแข็งดังกล่าว ความหนาของของชั้นในแกนน้ำแข็งนี้เผยให้เห็นการละลายของน้ำแข็งในทวีปย้อนไปถึง 1,000 ปีที่ผ่านมา

อาบรัมกล่าวว่า ตอนนี้การละลายของน้ำแข็งในหน้าร้อยอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา และในขณะที่ช่วง 200-300 ปีแรกของสหัสวรรษ การละลายของน้ำแข็งก็เพิ่มสูงขึ้นมากครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 โดยการศึกษาของพวกเขาตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์จีโอไซน์ (Nature Geoscience) ซึ่งบ่งชี้ว่า คาบสมุทรแอนตาร์กติกานั้นอาจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

ส่วนภาพจากแกนน้ำแข็งที่เจาะขึ้นมาจากแอนตาร์กติกาตะวันตกนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก โดยมีลักษณะของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นมากในอดีตคล้ายๆ กัน แต่ภาพดังกล่าวยังซับซ้อนและยากที่จะหาถึงสาเหตุที่แท้จริงของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าการละลายของน้ำแข็งที่ฝั่งตะวันตกนั้นเกิดจากสภาพอากาศเอลนีโญเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1990














ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046934
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews







เอเจนซี-- เมื่อเร็วๆนี้ แม่หมูของชาวบ้านในเมืองจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี ตกลูกหมูประหลาด สองหัว

กลุ่มสื่อจีนรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเช้าวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา แม่สุกรในบ้าน ที่เจ้าของบ้าน แซ่ โอวหยัง ตกลูกหมู 12 ตัว ลูกหมู 1 โหลในคอกนี้ มีตัวหนึ่งผิดประหลาดไปจากพี่ๆน้องๆ คือ มีสองหัว สามตา ลำตัวยาว 28 ซ.ม. น้ำหนักตัว ราว 1 กก.

แพทย์ในท้องถิ่น แซ่ หลู่ กล่าวว่า นับเป็นพัฒนาการที่ผิดปกติมาแต่กำเนิด ซึ่งพบเห็นน้อยมาก ในการตั้งท้อง 5 หมื่น ถึง หนึ่งแสนครั้ง จะปรากฏลูกหมูที่มีพัฒนาการผิดประหลาดเช่นนี้ 1 ครั้ง และโดยทั่วไป ลูกหมูประหลาดจะไม่มีชีวิตรอด

ภาพลูกหมูสองหัวในบ้านโอวหยัง เมืองจิ่วโจว มณฑลเจียงซี (ภาพ เอเจนซี)











ที่มา : http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046213
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews



บริษัทผู้ผลิตเบียร์ “โอลิมเปีย” ในมลรัฐวอชิงตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ในวันพฤหัสบดี(11)ด้วยการประกาศมอบเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 30 ล้านบาท) สำหรับผู้ใดก็ตามที่สามารถจับ “ไอ้ตีนโต” หรือ “บิ๊กฟุต” สิ่งมีชีวิตลึกลับในตำนานมาได้แบบตัวเป็นๆ 
       

        รายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์เคซีพีคิว ทีวี ในเมืองซีแอตเติลระบุว่า บริษัทผู้ผลิตเบียร์ดังกล่าวซึ่งมีฐานอยู่ในเมืองทัมวอเทอร์ มลรัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ และก่อตั้งกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 ประกาศมอบเงินรางวัลจำนวน1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับผู้ที่สามารถจับตัวบิ๊กฟุต สิ่งมีชีวิตลึกลับมาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ตัวบิ๊กฟุตที่ถูกจับมาจะต้องยังมีชีวิต และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น

       

        นอกจากนั้นในคำแถลงของบริษัทยังระบุห้ามผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ใช้อาวุธปืน มีด นวมชกมวย ตาข่าย หรือวัตถุอื่นๆที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ในการจับตัวบิ๊กฟุต พร้อมระบุ มีเพียง “น้ำตาล” หรือ “ของหวาน”เท่านั้นที่สามารถนำมาใช้ล่อสิ่งมีชีวิตลึกลับดังกล่าวได้
       
       
        คำแถลงของบริษัทยังระบุว่า แคมเปญดังกล่าวของเบียร์โอลิมเปีย ถือเป็นความพยายามในการค้นหาบิ๊กฟุตที่มีความจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสหรัฐฯ

       

        ทั้งนี้ บิ๊กฟุตถูกระบุว่าเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายลิงขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่แถบป่าลึก บริเวณชายฝั่งด้านแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ โดยผู้ที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีตัวตนอยู่จริงได้อ้างว่าพวกมันอาจสูง 2-3 เมตร และอาจมีน่ำหนักตัวได้ถึง 230 กิโลกรัม แม้ที่ผ่านมาจะยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า บิ๊กฟุตมีอยู่จริงก็ตาม






















ที่มา : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000044570
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews



โผล่มาให้ถกอีกคลิปผ่านวิดีโอภาพขาวดำสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ปรากฏภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวนิรนามรายหนึ่งขณะกำลังพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ ชาวเน็ตเชื่อเป็นการย้อนเวลากลับไปสู่อดีตจากวิดีโอ "Time Traveler in 1938 film" ความยาว 1.05 นาที ที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทูปได้สร้างประเด็นถกเถียงให้กับชาวออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะภายในวิดีโอดังกล่าวปรากฏเป็นภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวนิรนามรายหนึ่งขณะกำลังเดินอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเธอและทำท่าทางคล้ายกับกำลังพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่คลิปนี้ถูกนำออกมาเผยแพร่ได้มีคนออกมากล่าวอ้างว่าหญิงสาวในคลิป คือย่าทวดของเขาเองและกำลังคุยโทรศัพท์เพื่อติดต่อกับนักวิทยาศาสตร์ของโครงการทดลองอยู่จริงๆอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงต้องได้รับการพิสูจน์ต่อไปว่าเท็จจริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะล่าสุดก็มีคนออกมาโพสต์โต้ตอบว่าเขารู้จักกับบุคคลที่ทำงานอยู่ช่วงในเวลาดังกล่าวเหมือนกันและจะขอตรวจสอบดูว่าชายที่ออกมาอ้างตัวว่าเป็นญาติกับหญิงสาวในคลิปพูดจริงหรือไม่










ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=801489
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews





ฮือฮา ชาวสังคมออนไลน์แชร์ภาพผ่านทวิตเตอร์เป็นภาพบรรยากาศของงานวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและผู้คนที่มาเที่ยวงาน โดยภายในงานวัดดังกล่าว เหมือนกับงานวัดทั่วไปที่จะมีการนำสวนสนุกเคลื่อนที่มาตั้งให้ผู้มาเที่ยวงานได้เล่น

หนึ่งในเครื่องเล่นยอดนิยมประจำงานวัดก็คือชิงช้าสวรรค์ ซึ่งภาพนี้หากจะมองแบบผิวเผินอาจจะเหมือนงานวัดทั่วไปแต่หากลองสังเกตดีๆจะเห็นภาพคล้ายคนนั่งอยู่บนกระเช้าชิงช้าสวรรค์อันบนสุด ซึ่งชาวสังคมออนไลน์ต่างบอกว่าเป็นภาพจะไม่ใช่ภาพคนหรือการตกแด่งจากโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นแน่นอน



 









ที่มา  : http://news.mthai.com/general-news/226739.html

: Pageviews
บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก
  • PopularPosts
  • Tags
  • Archive

บทความที่ได้รับความนิยม

  • พระพุทธเจ้าตรัส มนุษย์ต่างดาวมีจริง!!
    พระพุทธเจ้าตรัสถึงโลกอื่น (ปรโลก) อยู่เสมอๆ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า จักรวาล ประ...
  • สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ปริศนา ปรากฎบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ 27/9/2012
    สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ปริศนาที่ปรากฎบน พื้นผิวของดวงอาทิตย์  เมื่อวันที่ 27/9/2012 และปรากฎอยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ เมื่อวานนี้ 30/9/2012 ...
  • ข้อความจากต่างมิติ - มิติคู่ขนาน, โลกใต้พิภพ, UFO, Yeti(เยติ)
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron) ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008 เรื่อง: อาณาจักรใต...
  • พลังจิต/ Psychic Power
    เรื่องราวพลังแห่งจินตนาการ ทั้งที่พิสูจน์ได้และไม่ได้ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ พลังจิต คืออะไร ? / Psychic Power ? ...  สำหรับคนทั่วไป...
  • บทสรุปหลักฐาน UFOและมนุษย์ต่างดาว ที่รอสเวลล์
    ในวันที่ 8 กรกฎาคม 1947 เรืออากาศโทวอลเตอร์ โฮท ซึ่งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกองทัพอากาศแห่งสหรัฐเมืองรอสเวลล์ ได้ประกาศอย่างเป็นทา...

ป้ายกำกับ

4179 Toutatis กระแสจิต กอลลัม กายทิพย์ กาแล็กซี่ กาแล็คซี่ แกะ 6 ขา ข้อความจากต่างมิติ ขั้วโลก คลายเครียด ความฝัน คำทำนาย คิริบาส เคปเลอร์-10ซี จักรวาล จันทร์ไททัน จิตใต้สำนึก ฉลามดึกดำบรรพ์ ช้างน้ำ ช้างแมมมอธ ชาวอินคา ชูปาคาบรา(Chupacabra ) เชียงใหม่ เชื้อไวรัส ซูเปอร์แมน ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ดาว ดาวคริปตัน ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์เพชร ดาวแคระแดง DG CVn ดาวเซเรส ดาวพฤหัสบดี ดาวพุธ(mercury) ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวหาง ดาวอังคาร ดำ โดรน(drone) ไดโนเสาร์ ถอดจิต ทฤษฎีโลกกลวง ทฤษฎีสมคบคิด ทวีปโบราณ ทะเลสีเลือด ที่สุดของโลก โทรจิต นกฟีนิกซ์ (Phoenix) นักบินอวกาศ นางเงือก นาซก้า (Nazca) นาซี น้ำ เนสซี แนะนำ บั้งไฟพญานาค บันทึกส่วนตัว บิ๊กฟุต(Bigfoot) เบอร์มิวด้า แบคทีเรีย ประเทศไทยยามราตรี ประสบการณ์แปลก ปริศนา ปาฏิหาริย์ ปิรามิด ปูยักษ์ ผ้าคลุมล่องหน ผาแต้ม ผีดูดเลือด ฝนดาวตก พญานาค พยากรณ์ พระพุทธเจ้า พลังงานจากวัตถุ พลังจิต พลังลี้ลับ พลังแห่งการผ่อนคลาย พลังแห่งความเชื่อมั่น พลังแห่งจินตนาการ พลังออร่า พายุทราย พิลึกโลก พีระมิด ฟอสซิล ฟอสซิลหอย ฟาโรห์ ฟาโรห์ Ramses II ภัยพิบัติ ภูเขาไฟ ภูเขาไฟRebel Dragon ภูติ มงกุฎทองคำ มนุษย์ต่างดาว มนุษย์ต่างดาวลักพาตัว มักกะลีผล มังกร มัมมี่ มายา มือเทียม เมฆประหลาด แม่มด โมอายเกาะอีสเตอร์ ยักษ์ ยานอวกาศ เยติ รถ รอดซ์ รอสเวลล์ ระบบสุริยะ รัสเซีย ล็อกเนสส์ ลี้ลับ ลูกไฟประหลาด โลก โลกคู่ขนาน โลกต่างดาว โลกต่างมิติ โลกใต้พิภพ โลกปรภพ โลกลี้ลับ โลกอื่น โลมา ไลบีเรีย วงแหวน วอยเอเจอร์1 วัตถุลึกลับ วิญญาณ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์หลอกลวง วิวัฒนาการ แวมไพร์ สตีเฟน ฮอว์กินส์ สโตนเฮนจ์ สฟิงซ์ สมาธิ สสารมืด สัตว์ประหลาด สารคดี สึนามิ สุสานฟาโรห์ หนังสือลึกลับ เหมืองอวกาศ อวกาศ อาณาจักรมู อารยธรรมโบราณ อีโบลา อียิปต์ อุกกาบาต เอลนีโญ(EI Nino) เอลฟ์ เอเลียน เอเลี่ยน ฮิตเลอร์ Antikythera Machine Area 51 auroras AUTEC Black hole Blobfish Costa Rica Crop circle DNA Download Ganymede Glow Worms Gnome Gravity Haarp highlight Hybrid INDIGO ISS Kepler-78b Kiribati Lacerta Mona Lisa Nasa Nebula OREGON VORTEX pโลกลี้ลับ picpost Popocatepetl Puma Punku StarChild Super Moon The Eye Titan moon Top tractor beam TRAPPIST-1 Tyndall Effect UFO videopost wallpaper Water Bears WormHole Zombie

คลังบทความ

  • ►  2018 (4)
    • ►  เมษายน (2)
    • ►  มีนาคม (2)
  • ►  2017 (4)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มีนาคม (2)
    • ►  มกราคม (1)
  • ►  2016 (27)
    • ►  พฤศจิกายน (5)
    • ►  ตุลาคม (2)
    • ►  กันยายน (5)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มิถุนายน (2)
    • ►  เมษายน (2)
    • ►  มีนาคม (5)
    • ►  กุมภาพันธ์ (2)
    • ►  มกราคม (3)
  • ►  2015 (30)
    • ►  สิงหาคม (1)
    • ►  กรกฎาคม (4)
    • ►  มิถุนายน (3)
    • ►  พฤษภาคม (1)
    • ►  เมษายน (1)
    • ►  มีนาคม (1)
    • ►  กุมภาพันธ์ (6)
    • ►  มกราคม (13)
  • ►  2014 (99)
    • ►  ธันวาคม (2)
    • ►  พฤศจิกายน (9)
    • ►  ตุลาคม (15)
    • ►  กันยายน (8)
    • ►  สิงหาคม (2)
    • ►  กรกฎาคม (2)
    • ►  มิถุนายน (13)
    • ►  พฤษภาคม (11)
    • ►  เมษายน (5)
    • ►  มีนาคม (16)
    • ►  กุมภาพันธ์ (7)
    • ►  มกราคม (9)
  • ▼  2013 (177)
    • ►  ธันวาคม (3)
    • ►  พฤศจิกายน (16)
    • ►  ตุลาคม (23)
    • ►  กันยายน (15)
    • ►  สิงหาคม (8)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มิถุนายน (5)
    • ►  พฤษภาคม (11)
    • ▼  เมษายน (16)
      • รมว.ไอซีที เปิดงาน ค้นหาคนไทยคนแรกไปอวกาศ
      • เชียงใหม่-ตื่นจิ้งจก 2 หัว
      • ปรากฎการณ์หายากชายหาด“เรืองแสงน้ำเงินเข้ม“
      • นักวิทย์ยัน ซากประหลาดคล้ายเอเลี่ยน เป็นซากมนุษย์
      • ตะลึง ลูกไฟประหลาดสว่างวาบกลางท้องฟ้า อาร์เจนตินา
      • สารคดี วันล้างโลก (โลกไม่มีมนุษย์)
      • สารคดี Ancient Aliens ตอน The Visitors (ผู้มาเยือน)
      • สารคดี: ตอน แหล่งอารยธรรมจากนอกโลก UFO ( Agharta )
      • นิโคลา เทสลา นักประดิษฐ์โลกลืม
      • เจ๋งสุดๆ
      • 'นาซ่า'พบ2ดาวเคราะห์นอกระบบ คล้ายโลกที่สุด
      • เตือนมาเรื่อยๆ น้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลง 10 เท่าในรอบพ...
      • แม่หมูในเจียงซี ตกลูกสองหัว สามตา
      • ฮือฮา! บริษัทเบียร์มะกัน ตั้งรางวัลเกือบ 30 ล้าน ใ...
      • คลิปปริศนา ผู้หญิงกำลังคุยมือถือ ในปี 1938
      • ฮือฮา ภาพถ่ายติดวิญญาณในงานวัด
    • ►  มีนาคม (9)
    • ►  กุมภาพันธ์ (40)
    • ►  มกราคม (30)
  • ►  2012 (309)
    • ►  ธันวาคม (30)
    • ►  พฤศจิกายน (35)
    • ►  ตุลาคม (32)
    • ►  กันยายน (12)
    • ►  สิงหาคม (17)
    • ►  กรกฎาคม (39)
    • ►  มิถุนายน (33)
    • ►  พฤษภาคม (15)
    • ►  เมษายน (22)
    • ►  มีนาคม (25)
    • ►  กุมภาพันธ์ (23)
    • ►  มกราคม (26)
  • ►  2011 (246)
    • ►  ธันวาคม (27)
    • ►  พฤศจิกายน (15)
    • ►  ตุลาคม (50)
    • ►  กันยายน (56)
    • ►  สิงหาคม (26)
    • ►  กรกฎาคม (19)
    • ►  มิถุนายน (19)
    • ►  พฤษภาคม (25)
    • ►  มีนาคม (2)
    • ►  กุมภาพันธ์ (7)
  • ติดตาม
  • comments
  • สถิติ

ผู้ติดตาม

Follow @twitterdev

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Flag Counter hits counter
2014 Allmysteryworld. All rights reserved.
Designed by allmysteryworld