ศาสตราจารย์โฮเซ มาเรีย มาไดโด อาจารย์มหาวิทยาลัยฮิวล์วาของราชสมาคมดาราศาสตร์อังกฤษเล่าว่า ขณะที่ส่องกล้องโทรทรรศน์ดูบริเวณที่มีชื่อว่า แมร์ นาเบียม อันเป็นแอ่งเต็มไปด้วยธารหินละลายสีดำเก่าแก่บนดวงจันทร์
เมื่อวันที่ 11 กันยายนปีกลาย ได้สังเกตเห็นการลุกไหม้เป็นไฟขึ้น อันตรงกับเวลากรุงเทพฯ 03.07 น. ของวันที่ 12 ความสว่างได้สาดส่องเกือบทั่วบริเวณขั้วเหนือ
เชื่อว่าหากมีใครคอยดูอยู่ในสภาพอากาศที่อำนวยจะต้องมองเห็นด้วยตาเปล่าอย่างแน่นอน
ทั้งยังเห็นแสงสว่างอยู่นานถึง 8 วินาที นับเป็นแสงที่เกิดขึ้นอยู่นานบนดวงจันทร์นานที่สุดเท่าที่เคยเห็นกันมา “ผมรู้ในทันทีตอนนั้นว่าได้เห็นปรากฏการณ์ที่แปลกเป็นพิเศษและหายากที่สุด”
เขากับคณะยังได้คำนวณว่า ก้อนอุกกาบาตก้อนนั้นอาจจะหนักถึง 400 กก. กว้าง 60 ซม. และยาว 1.40 ม. ตกกระทบพื้นดวงจันทร์ด้วยความเร็วชั่วโมงละ 610,000 กม.
เขากับคณะยังได้คำนวณว่า ก้อนอุกกาบาตก้อนนั้นอาจจะหนักถึง 400 กก. กว้าง 60 ซม. และยาว 1.40 ม. ตกกระทบพื้นดวงจันทร์ด้วยความเร็วชั่วโมงละ 610,000 กม.
ด้วยความเร็วขนาดนั้นจะทำให้ก้อนหินร้อนจนหลอมละลายและระเบิดกลายเป็นไอเมื่อกระทบพื้น ทำให้ไฟลุกไหม้จนมองเห็นถึงโลกได้ พร้อมกับทำให้เกิดหลุมระเบิดกว้างโตถึง 40 ม. ด้วยแรงระเบิดเทียบเท่ากับดินระเบิดทีเอ็นทีปริมาณถึง 15 ตัน.
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/edu/406261
____________________
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/edu/406261
____________________
loading...