พระพุทธเจ้าตรัสถึงโลกอื่น (ปรโลก) อยู่เสมอๆ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า จักรวาล ประกอบด้วยดวงจันทร์ โลก ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจร ไปร่วมกัน จะมีขุนเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) (เป็นภูเขาทิพย์ที่เห็นได้เฉพาะผู้มีอภิญญา) ทวีปต่างๆ ที่ตั้งชื่อกันในสมัย นั้นคือ
- ชมพูทวีป (โลกมนุษย์)
- อมรโคยานทวีป
- ปุพพะวิเทหะทวีป
- และอุตรกุรุทวีป
ทวีปหรือโลกเหล่านี้ เป็นไปได้สูงที่จะเป็นที่อยู่ของพวกมนุษย์ต่างดาวเพราะพระพุทธเจ้าตรสถึงรูปร่างหน้าของมนุษย์ในแต่ละทวีปไว้
1.ชมพูทวีป ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)
มีธาตุมรกตอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุมรกตทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของชมพูทวีปมีสีน้ำเงินแกมเขียวมนุษย์ ที่ชมพูทวีป มีความสูง ๔ ศอก มีอายุประมาณ ๑๐๐ ปี (อาจตายก่อนอายุได้ ไม่แน่นอน)มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ อายุยิ่งหย่อนขึ้นอยู่กับคุณธรรม ไม่แน่นอน สมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "พระวิปัสสี" มนุษย์ในชมพูทวีปมีอายุถึง ๘๐,๐๐๐ ปี
สมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "พระเรวะตะ" มนุษย์ในชมพูทวีปมีความสูงถึง ๘๐ ศอก แต่เมื่อคุณธรรมเสื่อมลง จิตใจหยาบช้าลง อาหารเลวลง อายุก็ลดลง ร่างกายก็เตี้ยลง
ต่อไปภายภาคหน้ามนุษย์ในชมพูทวีป จะมีอายุเพียง ๑๐ ปี เท่านั้น และตัวจะเตี้ยถึงขนาดต้องสอยมะเขือกิน เรียกยุคนั้นว่า "ยุคทมิฬ" เป็นยุคที่เสื่อมที่สุดของ "ชมพูทวีป" ดอกไม้ประจำชมพูทวีปคือ "ชมพู (ไม้หว้า)" ...เพราะเหตุนี้ ถึงเรียกว่า "ชมพูทวีป"เพราะดอกไม้ประจำทวีปนี้คือ ดอก "ชมพู"
ชมพูทวีป เป็นทวีปเดียวที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต้องมาตรัสรู้ที่ทวีปนี้เท่านั้น
ชมพูทวีป เป็นทวีปเดียวที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต้องมาตรัสรู้ที่ทวีปนี้เท่านั้น
2. อมรโคยานทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)
เป็นแผ่นดินกว้าง ๗,๐๐๐ โยชน์ ประกอบด้วยเกาะ และแม่น้ำใหญ่น้อย มีธาตุแก้วผลึกอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุแก้วผลึกทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของอมรโคยานทวีปมีสีแก้ว ผลึกมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีรูปหน้าเหมือนพระจันทร์ครึ่งซีก มีใบหน้าวงกลม คล้ายวงพระจันทร์ คนหน้าเหมือนดั่งเดือนแรม จมูกโด่ง คางแหลม มนุษย์ที่อมรโคยานทวีป มีความสูง ๖ ศอก มีอายุ ๕๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว) ดอกไม้ประจำอมรโคยานทวีปคือ "กะทัมพะ (ไม้กระทุ่ม)"
3. ปุพพวิเทหะทวีป ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)
เนื้อที่กว้าง ๗,๐๐๐ โยชน์ มีเกาะ ๔๐๐ เกาะ มีธาตุเงินอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุเงินทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของปุพพวิเทหะทวีปมีสีเงินมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีรูปหน้าเหมือนพระจันทร์เต็มดวง คนหน้ากลมเหมือนดวงจันทร์ มีใบหน้าตอนบนโค้งตัดลงมาเหมือนบาตร มนุษย์ที่ปุพพวิเทหะทวีป มีความสูง ๙ ศอก มีอายุ ๗๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุเป็นกฏตายตัว) -ดอกไม้ประจำปุพพวิเทหะทวีปคือ "สิรีสะ (ไม้ทรึก
4. อุตรกุรุทวีป ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ)
มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม เนื้อที่กว้าง ๘,๐๐๐ โยชน์ เป็นที่ราบ มีธาตุทองคำอยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ แสงสะท้อนของธาตุทองคำทำให้ทองฟ้าและมหาสมุทรของอุตรกุรุทวีปมีสีเหลืองทอง
มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ รูปร่างงาม มีลักษณะใบหน้าเป็นรูป ๔ เหลี่ยม รักษาศีล ๕ เป็นนิจ ไม่ยึดถือสมบัติ บุตร ภรรยา สามี ว่าเป็นของๆตน มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป มีความสูง ๑๓ ศอก มีอายุ ๑,๐๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว)
มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ รูปร่างงาม มีลักษณะใบหน้าเป็นรูป ๔ เหลี่ยม รักษาศีล ๕ เป็นนิจ ไม่ยึดถือสมบัติ บุตร ภรรยา สามี ว่าเป็นของๆตน มนุษย์ที่อุตรกุรุทวีป มีความสูง ๑๓ ศอก มีอายุ ๑,๐๐๐ ปี (จะไม่ตายก่อนอายุ เป็นกฏตายตัว)
มีต้นไม้นานาชนิด ดอกไม้ประจำอุตรกุรุทวีปคือ "กัปปรุกขะ (กัลปพฤกษ์)" ถ้าอยากได้อะไร ก็ไปนึกเอาที่ต้นกัลปพฤกษ์ จะสมปรารถนา มนุษย์ที่ อุตรกุรุทวีป เมื่อตายจากทวีปนี้ ทุกคนจะได้ไปเกิดใน "เทวภูมิ ชั้นตาวติงสาห์ภูมิ" ทุกๆคนเป็นกฏตายตัว ในภาษาบาลี "อุตร" แปลว่า "เหนือ" ...เพราะเหตุนี้ ถึงเรียกทวีปนี้ว่า "อุตรกุรุทวีป"
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า จูฬนีสูตร
"ดูกรอานนท์ จักรวาลหนึ่งมีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์
โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน ในโลกพันจักรวาลนั้น
"ดูกรอานนท์ จักรวาลหนึ่งมีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์
โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน ในโลกพันจักรวาลนั้น
- มีพระจันทร์พันดวง
- มีอาทิตย์พันดวง
- มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง
- มีชมพูทวีปพันหนึ่ง
- มีอปรโคยานทวีปพันหนึ่ง
- มีอุตตรกุรุทวีปพันหนึ่ง
- มีปุพพวิเทหทวีปพันหนึ่ง
- มีมหาสมุทรสี่พัน
- มีท้าวมหาราชสี่พัน
- มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาพันหนึ่ง
- มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์พันหนึ่ง
- มีเทวโลกชั้นยามาพันหนึ่ง
- มีเทวโลกชั้นดุสิตพันหนึ่ง
- มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีพันหนึ่ง
- มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีพันหนึ่ง
- มีพรหมโลกพันหนึ่ง
ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล
โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุอย่างเล็ก ซึ่งมีพันจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างกลางมีล้านจักรวาล
โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมีล้านจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล"
ท่านยังสงสัยอยู่หรือไม่ว่า มนุษย์ต่างดาวยังมีจริงไหม???
ที่มา : The Universe in Thai
____________________
อึ้ง!! นักฟิสิกส์ดังชี้ "ดาวอังคาร" เคยเจริญ แต่ถูกทำลายจากอาณาจักรศิวิไลซ์ลึกลับเก่าแก่ โลกจ่อรายต่อไป"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ว่า นักฟิสิกส์ชื่อดังรายหนึ่ง ได้แสดงทฤษฎีชี้ว่า ดาวอังคารเคยเป็นดาวที่เต็มไปด้วยสิ่งที่มีชีวิตที่ฉลาด แต่ได้ถูกทำลายล้างจากอาณาจักรที่ศิวิไลซ์ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้ดาวดวงนี้กลายเป็นดาวที่หนาวเย็นและไร้สิ่งมีชีวิต ขณะทีมนุษย์อาจกำลังกลายเป็นเป้าหมายรายต่อไปที่อาจจะถูกอาณาจักรดังกล่าว ทำลายล้าง หลังจากที่ดาวอังคารเคยเผชิญ
รายงานระบุว่า นายจอห์น แบรนเด็นเบิร์ก นักฟิสิกส์ชื่อดังที่ได้รับการยอมรับในวงการ ได้ออกหนังสือชื่อว่า "ความตายบนดาวอังคาร" ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า ความศิวิไลซ์ของดาวอังคารได้สูญสลายจากหายนะวิบัตที่เกิดจากน้ำมือของอาณาจักรที่ศิวิไลซ์ลึกลับ สังเกตได้จากการที่ดาวอังคารมีปล่องหลุมต่างๆ บนพื้นผิว ซึ่งบางทีอาจมาจากการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และเหตุผลที่เราไม่เคยไดยินสัญญาณใดจากอาณาจักรศิวิไลซ์อื่นๆ บนอวกาศ นั่นเพราะสัญญาณเหล่านี้ได้ถูกกวาดล้างไปสิ้น และโลกอาจกำลังถูกอาณาจักรศิวิไลซ์ลึกลับที่เคยทำลายดาวอังคารจับตาอยู่ และอาจใช้พลังดังกล่าวทำลายล้างจนราบคาบได้
โดยอาณาจักรเก่าแก่จำเป็นต้องทำลายล้างอาณาจักรใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันการเติบโตในห้วงจักรวาล และเป็นไปได้ว่า ในจักรวาลจะมีพลังงานที่เป็นศัตรูต่ออาณาจักรใหม่ที่เจริญและพลุกพล่าน เช่น โลกของเรา โดยพลังเหล่านี้นับรวมตั้งแต่เอเลี่ยน รวมทั้งเครื่องจักรสมองกลโหดเหี้ยม ที่มีความเกลียดชังต่อสิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อ และสิ่งอันตรายที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดก็คือ สิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกัน ขณะที่โลกจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอดจากการโจมตีจากสิ่งใดก็ตามที่ได้ทำลายดาวอังคารมาแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีนักฟิสิกส์จำนวนมากที่เชื่อว่า ดาวอังคารอาจถูกโจมตีด้วยอุกกาบาต ที่สามารถทะลุผ่านสนามแม่เหล็กและชั้นบรรยากาศ ขณะที่ทฤษฎีของนายแบรนเด็นเบิร์กถือว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เราเกิดมาบนโลก ตั้งแต่เด็กจนโตเราก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งมีชีวิตทุกวันนี้ หลายๆคนอาจจะประสบความสำเร็จและคิดว่าชีวิตเรานั้นยิ่งใหญ่มาก แต่หากได้ลองอ่านเรื่องต่อไปนี้แล้วอาจจะคิดพร้อมมองเห็นอะไรในมุมมองใหม่ๆ
- นี่คือโลกที่เราอยู่ทุกวันนี้อ่ะแหละ
2. และนี่ก็คือเพื่อนบ้านในระบบสุริยะอ่ะแหละ
3. ส่วนนี่คือระยะจริงระหว่างโลกกับดวงจันทร์ที่ย่อส่วนลงมาแล้ว ดูไกลเหมือนกันเนอะ
4. เชื่อรึเปล่าว่าดวงจันทร์และโลก เราสามารถยัดดาวเคราะห์ในระบบสุริยะทั้งหมดลงไปได้เลย
5. มาลองเทียบขนาดอเมริกาเหนือกับดาวพฤหัสกันดูบ้าง
6. และถ้าเอาโลกไปเทียบกับดาวเสาร์ล่ะ
7. แล้วถ้าเรามีวงแหวนเหมือนดาวเสาร์ เราก็จะมองเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนไปแบบนี้แหละ
8.ได้ดูข่าวที่มนุษย์เอายานไปลงจอดบนดาวหางได้สำเร็จรึเปล่าล่ะ และนี่คือขนาดดาวหางที่ว่าเมื่อเทียบกับเมือง LA
9. แต่อย่างที่รู้ๆกัน ไม่มีอะไรจะไปเทียบกับดวงอาทิตย์ได้หรอก
10. และนี่คือโลกที่มองจากดวงจันทร์
11. ส่วนนี่คือการมองโลกจากดาวอังคาร
12. ยังไม่จบ มีเวอร์ชั่นโลกจากดาวเสาร์อีก
13. แถมภาพโลกจากขอบสุริยะ
14. พร้อมภาพโลกเทียบกับดวงอาทิตย์อีกครั้ง
15. แล้วถ้าเราไปอยู่บนดาวอังคาร เราก็จะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้แหละ
16. แน่นอนว่าในจักรวาล มีดวงดาวมากกว่าเม็ดทรายทั้งหมดบนโลกอีกนะ
17. เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยว่า ดวงอาทิตย์ของเรามันก็แค่ฝุ่นผง เมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ขนาดใหญ่อื่นๆ
18. ดูให้ชัดๆล่ะกัน เพราะ VY Canis Majoris มันใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เราถึง 1 พันล้านเท่า!!!
19. เคยมีคนลองเปรียบเทียบว่าถ้าวงอาทิตย์ขนาดเท่ากับเซลล์เม็ดเลือดขาว ขนาดของทางช้างเผือกก็จะเท่ากับประเทศสหรัฐอเมริกา
20. นั่นไง บ้านของเราอยู่ตรงนั้น มองเห็นกันรึเปล่า???
21. และดวงดาวที่เราเห็นบนฟ้าทุกๆคืนก็แค่จุดเล็กๆ ในวงกลมเท่านั้นละ
22. คิดว่าทางช้างเผือกใหญ่แล้วใช่ป่ะ? ลองเทียบกับกาแล็คซี่ IC 1011 ที่ห่างจากโลก 350 ล้านปีแสงดูสิ
23. งั้นลองมาดูภาพจากกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลดู มีกาแล็คซี่นับล้าน ที่แต่ละกาแล็คซี่มีดาวนับล้านอีกด้วย
26. ส่วนนี่คือกาแล็คซี่ UDF 423 ที่ห่างจากโลก 10 ล้านปีแสง เพราะฉะนั้นภาพที่เราเห็นก็ผ่านมาสิบล้านปีละ
27. ย้ำอีกครั้งว่าภาพที่เราเห็นเป็นจุดเล็กๆบนท้องฟ้า มันก็มีดาวเป็นล้านดวงอยู่
28. เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดว่าเรายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็อยากให้จำเอาไว้ว่า นี่คือบ้านของเรา โลก
29. และนี่คือระบบสุริยะที่เป็นบ้านของเราเช่นกัน
30. และเมื่อเรามองออกมาเรื่อยๆจนเห็นระบบสุริยะเพื่อนบ้านใกล้เคียง บ้านของเรามันก็เล็กนิดเดียวเท่านั้น
31.มองออกไปนอกกาแล็กซี่ หาหลังคาบ้านเจอรึเปล่า
32. มองออกไปอีก มายังตำแหน่งกลุ่มกาแล็กซี่ของเรา ระบบสุริยะเราหายไปละ เล็กจนมองหาไม่เจอแล้ว
33. มองออกไปอีก อันนี้เรียกว่า กลุ่มกระจุกดาราจักรหญิงสาว(Virgo Supercluster) อ้าวไม่เห็นกาแล็กซี่เราแล้ว
34. ซูมๆออกไปอีก ใกล้จบละ กลุ่มกระจุกดาราจักรท้องถิ่น (Local Supercluster) ตอนนี้เหมือนเศษผุยผงล่องลอยในอากาศเลย
35. สุดท้าย... Local Supercluster เมื่อกี้ มันกลายเป็นแค่เม็ดฝุ่นเล็กๆ ในขวดโหลไปเลย (observable universe) เอกภพใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์สังเกตได้ เราเป็นหนึ่งในของเศษส่วนเท่าไหร่ลองคำนวณดูนะ
ที่มา : http://www.catdumb.com/universe-and-life/
http://www.buzzfeed.com/daves4/the-universe-is-scary
____________________
อ้างอิง : http://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มกระจุกดาราจักรหญิงสาว
________________________________
http://www.buzzfeed.com/daves4/the-universe-is-scary
____________________
อ้างอิง : http://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มกระจุกดาราจักรหญิงสาว
________________________________
ทีมกูเกิลเอ็กซ์ (Google X) ได้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีลักษณะคล้ายเม็ดยา เพื่อใช้ในการตรวจหาเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นเพื่อรักษาได้ทัน โดยในเม็ดยาจะมีอุปกรณ์ตรวจหาเซลล์มะเร็งซึ่งมีขนาดเล็กระดับนาโน Chad A. Mirkin ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย Nanotechnology at Northwestern University ได้กล่าวถึงเม็ดยานี้ว่า “มันเป็นสิ่งที่เหนือธรรมดามาก”
วารสารวิชาการ Wall Street Journal ได้ลงบทความของ Andrew Conrad หัวหน้าทีมนักวิจัยสิ่งมีชีวิตจากกูเกิลเอ็กซ์ที่กล่าวในงานประชุม WSDJ Live conference โดยเขาได้ให้นิยามของระบบนี้ว่า “อุปกรณ์ต้นแบบในการพัฒนาการใช้งานในระดับนาโนที่สามารถทำในสิ่งที่เราต้องการ”
สิ่งที่ทีมกูเกิลเอ็กซ์ทำมีระบบการทำงาน สองกลไก คือ
หนึ่ง: ยาที่มีลักษณะเป็นอนุภาคนาโน
สอง: อุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามเซลล์มะเร็งในร่างกาย
“ในที่สุดฝันของพวกหมอในการตรวจรักษาโรคก็เป็นจริง” Andrew Conrad กล่าว
ที่มา :
http://www.vcharkarn.com/vnews/501187
____________________
วารสารวิชาการ Wall Street Journal ได้ลงบทความของ Andrew Conrad หัวหน้าทีมนักวิจัยสิ่งมีชีวิตจากกูเกิลเอ็กซ์ที่กล่าวในงานประชุม WSDJ Live conference โดยเขาได้ให้นิยามของระบบนี้ว่า “อุปกรณ์ต้นแบบในการพัฒนาการใช้งานในระดับนาโนที่สามารถทำในสิ่งที่เราต้องการ”
สิ่งที่ทีมกูเกิลเอ็กซ์ทำมีระบบการทำงาน สองกลไก คือ
หนึ่ง: ยาที่มีลักษณะเป็นอนุภาคนาโน
สอง: อุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามเซลล์มะเร็งในร่างกาย
“ในที่สุดฝันของพวกหมอในการตรวจรักษาโรคก็เป็นจริง” Andrew Conrad กล่าว
ที่มา :
http://www.vcharkarn.com/vnews/501187
เครดิต :
________________________________
อ้างอิง :
http://www.slashgear.com/google-x-nano-pill-will-seek-cancer-cells-in-your-body-28352810/
________________________________