เรื่องลึกลับจากทั่วโลก All mystery world

รวมเรื่องราว พลังแห่งจิตนาการ,โลกลี้ลับ,UFO,มนุษย์ต่างดาว,อารยธรรมโบราณ,ปริศนาต่างๆ,จากทั่วทุกมุมโลก

  • Homeหน้าหลัก
  • โลกต่างดาวโลกต่างดาว
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • โลกต่างมิติโลกต่างมิติ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • โลกลี้ลับโลกลี้ลับ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • จักรวาลจักรวาล
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • อารยธรรมโบราณอารยธรรมโบราณ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • ภัยพิบัติภัยพิบัติ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
  • พลังแห่งจินตนาการพลังแห่งจินตนาการ
    • Subitem 1
    • Subitem 2
You are here : Home »


ในสมัยก่อน ผู้คนมักจินตนาการรูปร่างของสัตว์ คน และสิ่งอื่นๆ จากการจัดเรียงตัวของดวงดาวยามค่ำคืนที่อยู่บนท้องฟ้า เมื่อรวมๆ กันจะกลายเป็นกลุ่มดาว ในตอนนี้นักบินอวกาศได้นำรูปภาพที่คล้ายกับหน้าพร้อมกับรอยยิ้มในศูนย์กลางของภาพนี้มาเปิดเผย ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิ้ล

ใบหน้านั้นอยู่ในกลุ่มของกาแล็กซี่ ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ของดวงดาว นักบินอวกาศได้ให้ชื่อกลุ่มดวงดาวนี้ซึ่งยากต่อการจดจำว่า SDSS J1038+4849

ดวงตาสองดวงที่เป็นสีส้มนั้นลอยอยู่เหนือกับจมูกที่เป็นแสงสีขาว ตาสองข้างนั้นจริงๆ แล้วเป็นกาแล็กซี่ที่มีความสว่างมากๆ ซึ่งอยู่ไกลประมาณ 4.5 พันล้านปีแสง รอยยิ้มและขอบของใบหน้านั้นไม่ได้มีอยู่จริงๆ เส้นที่เป็นส่วนโค้งเหล่านั้นเป็นแสงที่เกิดการบิดเบี้ยว ซึ่งมาจากผลกระทบที่เราเรียกกันว่า gravitational lensing ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จาก National Aeronautics and Space Administration and the European Space Agency (ESA) ได้อธิบายไว้

กลุ่มของกาแล็กซี่นั้นมีขนาดใหญ่มาก ในความจริงแล้ว พวกมันเป็นสิ่งที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในจักรวาล แรงโน้มถ่วงนั้นทำตัวคล้ายกับเลนส์ของแว่นตาที่มีความหนาหรือที่เรียกว่ากล้องโทรทรรศน์ แต่ gravitational lens นั่นมีความรุนแรงมากกว่าซึ่งมันไม่เพียงสามารถขยายแต่ยังบิดแสงด้านหลังของมันได้ด้วย “การค้นพบที่มากมายของกล้องฮับเบิ้ลนั้นเป็นไปได้ที่เกิดจากเลนส์แบบนี้” NASA ชี้แจงไว้

กว่าร้อยปีที่ผ่านมา Albert Einstein เป็นผู้เสนอคนแรกว่า แสงสามารถบิดโค้งได้โดยแรงโน้มถ่วงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฏีสัมพันธภาพ หลังจากนั้นอีก 21 ปี Einstein ได้เขียนวารสารทางวิชาการอธิบายเกี่ยวกับภาพของแสงที่ถูกบิดโค้งนั้นว่าสามารถเกิดขึ้นได้ มันได้รับขนานนามว่า Einstein ring เมื่อวัตถุขนาดใหญ่บางชนิดทำตัวคล้ายกับเลนส์ แสงที่โค้งอาจจะปรากฏขึ้นในลักษณะที่โค้งเป็นบางส่วนหรือเป็นวงกลม

ในภาพนี้ ภาพของแสงที่บิดโค้งได้ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนโค้งของรอยยิ้มและรูปโครงหน้า โดยดวงตานั้นทำให้เกิดเลนส์ขึ้นซึ่งทำให้เกิดรอยยิ้มเช่นนี้ แสงของมันมาจากแสงที่อยู่ด้านหลังของดวงตาซึ่งไกลกว่า 3 พันล้านปีแสง

นักบินอวกาศจับภาพลักษณะนี้ไว้ได้ในขณะที่ใช้กล้องฮับเบิ้ลสองตัว ศิลปิน Judy Schmidt ได้นำภาพนี้เข้าประกวดในงาน ESA’s Hubble’s Hidden Treasures contest






ที่มา : http://www.vcharkarn.com/vnews/501760
____________________
เครดิต :
________________________________

อ้างอิง :
________________________________
: Pageviews


ปรมาจารย์วิชาฟิสิกส์ชื่อดังของโลก อาจารย์ สตีเฟน ฮอว์กินส์,  กล่าวเตือนย้ำอีกว่าระวังมนุษย์ต่างดาวจะบุกโลก ทำลายอารยธรรมและมนุษยชาติจนหมดสิ้น พร้อมกับเร่งเร้าเพิ่มการเดินทางในอวกาศเผื่อว่ามนุษย์จะพบที่หลบภัยใหม่

นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องชี้ว่า การเดินทางในอวกาศ นอกจากจะเป็นอนาคตระยะไกลแล้ว ยังเป็นหลักประกันของมนุษยชาติด้วย โดยได้อธิบายว่าการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์นั้น เป็นการเปลี่ยนอนาคตของมนุษยชาติในทางที่ยังไม่สู้จะเข้าใจนัก มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาบนโลกได้ทันตา แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นมิติใหม่ และรู้จักมองดูทั้งข้างในข้างนอก

“ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า อนาคตระยะไกลของชาติพันธุ์มนุษย์ จะต้องฝากความหวังไว้กับอวกาศ มันจะเป็นหลักประกันการอยู่รอดของเราในวันหน้าในฐานะเครื่องป้องกันการสูญหายของมนุษยชาติ จากการตกเป็นอาณานิคมของดาวเคราะห์ดวงอื่น” เขากล่าว.

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/483053
____________________
: Pageviews



ต้องขอเกลิ่นนำก่อนว่า ฮิตเลอร์ สุดยอดผู้นำเผด็จการ มีความเชื่อในเรื่องของพลังเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าผู้ที่ได้ครอบครองพลังเหล่านั้นจะเป็นคนที่ถูกมอบหมายให้บริหารโลกนี้แต่เพียงผู้เดียว ฮิตเลอร์เชื่อในเรื่องเผ่าพันธ์เขามองว่า เผ่าอารยันที่มีผมสีทอง ตาสีฟ้า จะเป็นคนที่เข้ามาจัดการกับโลกนี้ให้ไปในเส้นทางที่ถูกต้อง




ฮิตเลอร์ ได้เสนอทฤษฏีที่ว่า ชาวเยอรมันนั้นมีต้นกำเหนิดมาจากชาวแอตแลนติส ที่เอาตัวรอดมาจากยุคน้ำแข็งได้สำเร็จจนมาสร้างความเกรียงไกรได้ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นชาวอารยันจึงมีความสำคัญต่อโลกในทุกๆทาง ทั้งการวิทยาศาสตร์ ศาสนา การเอาตัวรอด และการสงคราม นั่นนำมาสู่ความเชื่อและการกระทำที่ต้องคัดกรองมนุษย์ให้เหลือแต่อารยันแท้ๆ เท่านั้นที่สำคัญ ส่วนยิว หรือเผ่าอื่นๆต้องตายหรือถูกกำจัดไป




รายงานจากนิตยสารวิทยาศาสตร์ พีเอ็ม ของประเทศ เยอรมนี ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอด จนทำให้โลกต้องตะลึงกันอีกครั้ง เมื่อระบุว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำเผด็จการ ของพรรคนาซี ได้เคยสั่งให้ทีมนักวิทยาศาสตร์ บรรจงสร้าง จานบิน หรือ UFO ที่สุดแสนจะเหนือจินตนาการ จนสามารถพัฒนาถึงขั้นสร้าง ต้นแบบ ที่ใช้บินได้จริงมาแล้ว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ต่อสู้กับฝ่ายสัมพันธมิตร (อังกฤษและสหรัฐ)




ฮิตเลอร์ เริ่มโครงการสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ชนิดพิเศษหลายโครงการ เช่น UFO ขึ้นลงตามแนวดิ่งที่สามารถบินได้เร็วเหนือเสียง, จรวดนำวิถียิงจากระยะไกล, เครื่องบินทิ้งระเบิดสมรรถนะสูง และระเบิดปรมาณู เป็นต้น ฮิตเลอร์สามารถทำโครงการได้สำเร็จเพียงบางโครงการเท่านั้น เมื่อกองทัพรัสเซียบุกเข้ายึดกรุง เบอร์ลิน ก่อนที่สุดท้าย ฮิตเลอร์ จะยิงตัวตาย เพราะการถูกจับไปเป็นเฉลยคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

 



อย่างไรก็ตาม หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นักวิทยาศาสตร์ของนาซีได้เข้าร่วมโครงการทดลองด้านอวกาศของสหรัฐฯเป็นจำนวนมาก โดยมีทางด้าน โจเซฟ แอนเดรียส์ วิศวกรคนหนึ่งของโครงการเปิดเผยว่า กองทัพนาซีสร้าง UFO ต้นแบบไว้ถึง 15 ลำ โดยห้องนักบินจะอยู่ส่วนกลางของตัวเครื่อง และมีปีกที่ปรับหมุนได้แผ่ออกเป็นวงกลม ซึ่งช่วยให้เครื่องสามารถลอยขึ้นได้

นอกจากนี้ อิกอร์ วิตคอว์สกี อดีตนักข่าวและนักประวัติศาสตร์การทหารชาวโปแลนด์ เขียนในหนังสือ “Prawda O Wunderwaffe” ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2000 ว่า กองทัพนาซีเคยสร้างเครื่องบินลักษณะคล้ายระฆังคว่ำ และ ฮิตเลอร์ สั่งให้รวบรวมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรมาช่วยงานกองทัพเป็นจำนวนมาก ซึ่งโครงการดังกล่าวของนาซีมีชื่อว่า “ชรีเวอร์-ฮาแบร์โมล” ทำการทดลองในกรุงปรากระหว่างปี 1941-1943 โดยมีรูดอล์ฟ ชรีเวอร์ เป็นวิศวกรและนักบินทดลอง และ ออตโต ฮาแบร์โมล เป็นวิศวกรคนที่ 2






ขณะเดียวกัน “พีเอ็ม” นิตยสารด้านวิทยาศาสตร์ ของประเทศ เยอรมัน ยังเปิดเผยอีกว่า กองทัพนาซีได้ทำลายบันทึกการทดลองทางวิทยาศาสตร์ไปเป็นจำนวนมาก แต่ในปี 1960 ผู้เชี่ยวชาญด้าน  UFO ในแคนาดาได้ทดลองสร้างวัตถุดังกล่าวขึ้นใหม่ และพบว่ามันสามารถ บินได้จริง



ที่มา : http://www.flagfrog.com/top-secreat-ufo-hitler-plan/
____________________

: Pageviews



พิษณุโลก-ชาวบ้านเนินมะปรางพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์อายุกว่า360ล้านปี





พิษณุโลก-ชาวบ้านเนินมะปรางพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์อายุกว่า360ล้านปี

เมื่อวันที่13ก.พ. มีชาวบ้านพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์ ภายในคลองห้วยผึ้ง หมู่ 10 บ้านศาลเจ้า ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ภายในไร่ของนายณัฐพงษ์ แก้วนวล อายุ 40 ปี อาชีพเกษตรกร

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและนักอนุรักษ์กลุ่มเรารักเนินมะปราง กำลังจับกลุ่มยืนมุงดูซากฟอสซิลของพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์ที่เกาะตามโขดหิน และซอกหินจำนวนมาก หลังจากก่อนหน้านี้สภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้น้ำในลำคลองห้วยผึ้งแห้งขอดและลดลง และพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์โดยบังเอิญ จึงได้แจ้งไปยังนักอนุรักษ์กลุ่มเรารักเนินมะปรางให้รับทราบเรื่องดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า ภายในคลองห้วยผึ้งบริเวณจุดที่พบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์ มีหินปูนขนาดใหญ่ จำนวน 4 ก้อน ซึ่งทุกๆ ก้อน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันใช้แปรงขัดและใช้น้ำราดชะล้างทำความสะอาดจนคราบตะไคร่น้ำออกจนหมด เผยให้เห็นถึงซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายเปลือกหอยแบนยาวประมาณ 5 – 10 ซม. เกาะติดฝังแน่นอยู่กับหินปูนทั่วทั้งก้อน

นอกจากนี้ยังพบว่า ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ที่มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ ต.เนินมะปราง ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก ต.บ้านมุง ของ อ.เนินมะปราง โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 1,775 ไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากคลองห้วยผึ้งจุดที่สำรวจพบซากฟอสซิลในวันนี้ ประมาณ 5 กม. โดยพื้นที่เป็นถ้ำและภูเขาหินปูน ก็มีการสำรวจพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์เช่นกัน

สำหรับภูเขาผาท่าพลนั้นจัดเป็นเขาหินปูน อยู่ในมหายุคพาลีโอซีน (Palaeocene) และอยู่ในยุคย่อยคาร์บอนิฟอรัส (Caboniferus) มีอายุราว 286-360ล้านปีมาแล้ว เป็นภูเขาที่ทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้ ภูเขาหินปูนบริเวณนี้

ส่วนมากเกิดจากการทับถมของเปลือกหอย พลับพลึงทะเล หรือปะการัง เมื่อตายแล้วถูกฝังในดินโคลน หรือทราย ก่อนจะเน่าเปื่อย และถูกฝังรักษาไว้ในหิน บางครั้งเปลือกหรือกระดูกของสัตว์ก็จะถูกแทนที่ด้วยแร่ธาตุ แต่ยังคงรูปร่างไว้เช่นเดิม จากการศึกษาและจำแนกซากดึกดำบรรพ์ทำให้ทราบว่า บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน
ซึ่งหลังจากวันนี้ได้มีการสำรวจค้นพบซากฟอสซิลพลับพลึงทะเลดึกดำบรรพ์แล้ว จะได้ติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาดูแล และตรวจสอบหาอายุของซากฟอสซิลที่ค้นพบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อหารือและปรับพื้นที่สำรวจพบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ให้ประชาชนทั่วไป นักเรียน และนักศึกษา ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าประวัติความเป็นมาของวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย



ที่มา : posttoday.com
____________________

: Pageviews
ภาพวัตถุ ในเงามืด บนดาวอังคาร  เมื่อลองปรับแสงสว่าง ถึงกับผงะ!!!
เมื่อวัตถุดังกล่าว คล้ายคลึง กับสิ่งมีชวิต หรือหุ่นยนต์  กำลังจ้องมองมาที่ยานสำรวจ

จะเป็นอะไร ต้องใช้ วิจารณญาณ ในการรับชมกันดูครับ





ภาพต้นฉบับจากยานสำรวจ

ลองปรับแสง และสีเพิ่ม







ภาพต้นฉบับ :http://www.midnightplanets.com/web/MERB/image/03789/1N464560442EFFCHT9P0755R0M1.html
____________________
เครดิต :เว็บต่างประเทศ
________________________________

: Pageviews


เป็นคำถามที่พวกเราเฝ้าถามกันมาตลอดว่า “มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่?” บางคนก็ไม่เชื่อ เพราะยังไม่เคยเห็นและยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่บางคนก็เชื่อเพราะจักรวาลนี้มันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก ซึ่งก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาไม่น้อยกว่าชาวโลกอยู่บ้างแหละ แต่ทฤษฎีหลังนี้น่าจะมีแนวโน้มเป็นจริงมากขึ้น เมื่อมีแหล่งข่าวระดับสูงอ้างว่า

“มนุษย์ต่างดาวมีจริง และอยู่ปะปนกับมนุษย์โลกไม่ต่ำกว่า 80 ปีมาแล้ว”

สำนักข่าวท้องถิ่น เนวาด้าเดลี่เมล์ ได้รายงานเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เมื่อนักข่าวคนหนึ่งได้รับการติดต่อจากชายไม่ทราบชื่อ ที่ไม่ยอมบอกว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน และได้ขอนัดนักข่าวไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่บนโลก ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ ชายคนดังกล่าวไม่ขอเปิดเผยชื่อ ห้ามบอกรูปลักษณ์ภายนอกของเขา และไม่ยินยอมให้อัดวีดีโอและอัดเสียงเพื่อบันทึกการสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น

หลังจากได้พูดคุยกัน ชายคนดังกล่าว ซึ่งทางสำนักข่าวได้อ้างว่าเป็น “แหล่งข่าวระดับสูง” เคยทำงานอยู่ในแอเรีย 51 แต่ไม่ยอมบอกว่าทำตำแหน่งหน้าที่อะไร ได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่ชาวโลกทุกคนสงสัย โดยมีข้อมูลที่สำคัญที่สรุปเอาไว้ได้ทั้งหมด 10 เรื่องดังนี้




แอเรีย 51


1. มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง และอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เรามานานกว่า 80 ปี
2. มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ค้นพบพวกเขา แต่พวกเขาติดต่อเรามาเอง
3. ช่วงเวลาที่ติดต่อมาคือ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือปี ค.ศ. 1946
4. หน้าตาของมนุษย์ต่างดาวเหมือนกับคนปกติ !! โดยพวกเขาอ้างว่า จริงๆ แล้วรูปลักษณ์ภายนอกปกติของพวกเขาไม่ได้เป็นแบบคนทั่วไป แต่เขามีวิธีการทำให้ตัวเองมีรูปลักษณ์แบบคนทั่วไปได้ (ข้อมูลตรงนี้ค่อนข้างเหลือเชื่อและขัดกับสิ่งที่เราเข้าใจมาโดยตลอดว่ามนุษย์ต่างดาวจะต้องตัวเล็ก หัวโต มีตาใหญ่ๆ เหมือนเอเลี่ยน)
5. พวกเขาติดต่อผ่านนายทหารระดับสูงของอเมริกาท่านหนึ่ง และหลังจากนั้นนายทหารท่านนั้นก็พาไปพบกับประธานาธิปดีสหรัฐในขณะนั้น (แฟรงคลิน ดี รูสเวลท์)




ภาพมนุษย์ต่างดาวจับมือกับนายทหารท่านหนึ่ง ไม่ทราบแหล่งที่มา แต่คาดเดาว่าไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ที่ชายดังกล่าวพูดถึง

6. ประเด็นที่เข้าพบคือเรื่องของสันติภาพของโลกในอนาคต สาเหตุจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (ประเด็นการคุยเรื่องสันติภาจบแค่นี้ เพราะแหล่งข่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า มนุษย์ต่างดาวมาเพื่อให้คำแนะนำหรือมาเพื่อบอกอะไรเราอีก)
7. จริงๆ แล้วมนุษย์ต่างดาวยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์ แต่พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโลกมากที่สุดและมีสิ่งแวดล้อม แรงดึงดูด เวลาโคจรของดวงดาวใกล้เคียงกันมากที่สุด ส่วนเผ่าพันธุ์อื่นจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจะโลกค่อนข้างมากและอยู่ไกลเกินกว่าจะมาถึงโลกได้บ่อยๆ แต่ก็มีแวะเวียนมาบ้าง
8. ส่วนเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเพิ่งย้ายมาอยู่บนโลกมนุษย์อย่างเป็นทางการเมื่อ 10 มาแล้ว (10 ปีก่อนปี ค.ศ. 1946 ก็คือปี ค.ศ 1936)
9. พวกเขาย้ายมาอยู่บนมนุษย์โลกหลายสิบชีวิต แต่ละชีวิตกระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ บนโลก เป็นชนกลุ่มแรกของดาวเขาที่ทดลองย้ายเข้ามาอยู่เพื่อเรียนรู้และทดลองการใช้ชีวิต (นักวิทยาศาสตร์ในแอเรีย 51 และทีมงานหลายคนคาดเดาว่า อาจเป็นเพราะดาวของพวกเขาประสบปัญหาบางอย่าง และต้องการหาที่อยู่ใหม่)
10. พวกเขาเป็นมิตรกับมนุษย์แน่นอน หลังจากสงครามโลก จนถึงปัจจุบัน (2014) พวกเขาติดต่อกับพวกเรามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นในการศึกษาและเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ และปัจจุบันก็มีพวกเขากว่า 100 ชีวิตอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ




หรือพวกเขาจะมีลักษณะแบบนี้ ? คงไม่ใช่นะ

สำหรับข้อมูลการให้สัมภาษณ์ก็ถูกสรุปไว้เพียงคร่าวๆ เท่านี้ ส่วนคำถามสุดท้ายที่นักข่าวถามกับแหล่งข่าวไปก็คือ “ทำไมคุณถึงมาบอกข้อมูลนี้กับผม?” แหล่งข่าวบอกสั้นๆ แต่เพียงว่า “ถือว่าเป็นของขวัญวันคริสมาสต์สำหรับผมก็แล้วกัน ผมว่ามันถึงเวลาที่ทุกคนควรได้รู้ความจริงเสียที เพราะอีกไม่นานทุกคนก็จะต้องรู้ความจริงนี้อยู่แล้ว และที่สำคัญ ตอนนี้ผมไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับที่นั่นอีกแล้ว” ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งปริศนาเอาไว้

ซึ่งหลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์เพียงไม่ถึง 2 วัน ก็ได้ถูกลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีคำชี้แจงสั้นๆ ว่าเป็นการเข้าใจผิดของสำนักพิมพ์และต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ หรือว่ามันเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการปกปิดเอาไว้หรือไม่ ? แล้วคุณล่ะ อาจแล้วเชื่อหรือไม่ว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและอาศัยอยู่บนโลกใบนี้กับเราด้วย !


ที่มา : petmaya.com/ , nevadadailymail
บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก
  • PopularPosts
  • Tags
  • Archive

บทความที่ได้รับความนิยม

  • พระพุทธเจ้าตรัส มนุษย์ต่างดาวมีจริง!!
    พระพุทธเจ้าตรัสถึงโลกอื่น (ปรโลก) อยู่เสมอๆ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน "จูฬนีสูตร" พระไตรปิฎก หน้า ๒๑๕ เล่ม ๒๐ ว่า จักรวาล ประ...
  • สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ปริศนา ปรากฎบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ 27/9/2012
    สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ปริศนาที่ปรากฎบน พื้นผิวของดวงอาทิตย์  เมื่อวันที่ 27/9/2012 และปรากฎอยู่ข้างๆ ดวงอาทิตย์ เมื่อวานนี้ 30/9/2012 ...
  • ข้อความจากต่างมิติ - มิติคู่ขนาน, โลกใต้พิภพ, UFO, Yeti(เยติ)
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron) ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008 เรื่อง: อาณาจักรใต...
  • พลังจิต/ Psychic Power
    เรื่องราวพลังแห่งจินตนาการ ทั้งที่พิสูจน์ได้และไม่ได้ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ พลังจิต คืออะไร ? / Psychic Power ? ...  สำหรับคนทั่วไป...
  • บทสรุปหลักฐาน UFOและมนุษย์ต่างดาว ที่รอสเวลล์
    ในวันที่ 8 กรกฎาคม 1947 เรืออากาศโทวอลเตอร์ โฮท ซึ่งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกองทัพอากาศแห่งสหรัฐเมืองรอสเวลล์ ได้ประกาศอย่างเป็นทา...

ป้ายกำกับ

4179 Toutatis กระแสจิต กอลลัม กายทิพย์ กาแล็กซี่ กาแล็คซี่ แกะ 6 ขา ข้อความจากต่างมิติ ขั้วโลก คลายเครียด ความฝัน คำทำนาย คิริบาส เคปเลอร์-10ซี จักรวาล จันทร์ไททัน จิตใต้สำนึก ฉลามดึกดำบรรพ์ ช้างน้ำ ช้างแมมมอธ ชาวอินคา ชูปาคาบรา(Chupacabra ) เชียงใหม่ เชื้อไวรัส ซูเปอร์แมน ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ดาว ดาวคริปตัน ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์เพชร ดาวแคระแดง DG CVn ดาวเซเรส ดาวพฤหัสบดี ดาวพุธ(mercury) ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวหาง ดาวอังคาร ดำ โดรน(drone) ไดโนเสาร์ ถอดจิต ทฤษฎีโลกกลวง ทฤษฎีสมคบคิด ทวีปโบราณ ทะเลสีเลือด ที่สุดของโลก โทรจิต นกฟีนิกซ์ (Phoenix) นักบินอวกาศ นางเงือก นาซก้า (Nazca) นาซี น้ำ เนสซี แนะนำ บั้งไฟพญานาค บันทึกส่วนตัว บิ๊กฟุต(Bigfoot) เบอร์มิวด้า แบคทีเรีย ประเทศไทยยามราตรี ประสบการณ์แปลก ปริศนา ปาฏิหาริย์ ปิรามิด ปูยักษ์ ผ้าคลุมล่องหน ผาแต้ม ผีดูดเลือด ฝนดาวตก พญานาค พยากรณ์ พระพุทธเจ้า พลังงานจากวัตถุ พลังจิต พลังลี้ลับ พลังแห่งการผ่อนคลาย พลังแห่งความเชื่อมั่น พลังแห่งจินตนาการ พลังออร่า พายุทราย พิลึกโลก พีระมิด ฟอสซิล ฟอสซิลหอย ฟาโรห์ ฟาโรห์ Ramses II ภัยพิบัติ ภูเขาไฟ ภูเขาไฟRebel Dragon ภูติ มงกุฎทองคำ มนุษย์ต่างดาว มนุษย์ต่างดาวลักพาตัว มักกะลีผล มังกร มัมมี่ มายา มือเทียม เมฆประหลาด แม่มด โมอายเกาะอีสเตอร์ ยักษ์ ยานอวกาศ เยติ รถ รอดซ์ รอสเวลล์ ระบบสุริยะ รัสเซีย ล็อกเนสส์ ลี้ลับ ลูกไฟประหลาด โลก โลกคู่ขนาน โลกต่างดาว โลกต่างมิติ โลกใต้พิภพ โลกปรภพ โลกลี้ลับ โลกอื่น โลมา ไลบีเรีย วงแหวน วอยเอเจอร์1 วัตถุลึกลับ วิญญาณ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์หลอกลวง วิวัฒนาการ แวมไพร์ สตีเฟน ฮอว์กินส์ สโตนเฮนจ์ สฟิงซ์ สมาธิ สสารมืด สัตว์ประหลาด สารคดี สึนามิ สุสานฟาโรห์ หนังสือลึกลับ เหมืองอวกาศ อวกาศ อาณาจักรมู อารยธรรมโบราณ อีโบลา อียิปต์ อุกกาบาต เอลนีโญ(EI Nino) เอลฟ์ เอเลียน เอเลี่ยน ฮิตเลอร์ Antikythera Machine Area 51 auroras AUTEC Black hole Blobfish Costa Rica Crop circle DNA Download Ganymede Glow Worms Gnome Gravity Haarp highlight Hybrid INDIGO ISS Kepler-78b Kiribati Lacerta Mona Lisa Nasa Nebula OREGON VORTEX pโลกลี้ลับ picpost Popocatepetl Puma Punku StarChild Super Moon The Eye Titan moon Top tractor beam TRAPPIST-1 Tyndall Effect UFO videopost wallpaper Water Bears WormHole Zombie

คลังบทความ

  • ►  2018 (4)
    • ►  เมษายน (2)
    • ►  มีนาคม (2)
  • ►  2017 (4)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มีนาคม (2)
    • ►  มกราคม (1)
  • ►  2016 (27)
    • ►  พฤศจิกายน (5)
    • ►  ตุลาคม (2)
    • ►  กันยายน (5)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มิถุนายน (2)
    • ►  เมษายน (2)
    • ►  มีนาคม (5)
    • ►  กุมภาพันธ์ (2)
    • ►  มกราคม (3)
  • ▼  2015 (30)
    • ►  สิงหาคม (1)
    • ►  กรกฎาคม (4)
    • ►  มิถุนายน (3)
    • ►  พฤษภาคม (1)
    • ►  เมษายน (1)
    • ►  มีนาคม (1)
    • ▼  กุมภาพันธ์ (6)
      • รอยยิ้มในอวกาศ
      • เตรียมมนุษย์อพยพ หนีถูกมนุษย์ต่างดาวบุกโลก
      • เปิดเผยกองทัพลับ UFO ของฮิตเลอร์! ในช่วงสงครามโลกค...
      • พบซากฟอสซิลอายุกว่า360ล้านปี...
      • เอาละซิ!!! ภาพถ่ายจาก #ดาวอังคาร เราเจออะไรบางอย่า...
      • ช็อคโลก ! มีมนุษย์ต่างดาวปะปนอยู่กับพวกเรามากว่า 8...
    • ►  มกราคม (13)
  • ►  2014 (99)
    • ►  ธันวาคม (2)
    • ►  พฤศจิกายน (9)
    • ►  ตุลาคม (15)
    • ►  กันยายน (8)
    • ►  สิงหาคม (2)
    • ►  กรกฎาคม (2)
    • ►  มิถุนายน (13)
    • ►  พฤษภาคม (11)
    • ►  เมษายน (5)
    • ►  มีนาคม (16)
    • ►  กุมภาพันธ์ (7)
    • ►  มกราคม (9)
  • ►  2013 (177)
    • ►  ธันวาคม (3)
    • ►  พฤศจิกายน (16)
    • ►  ตุลาคม (23)
    • ►  กันยายน (15)
    • ►  สิงหาคม (8)
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  มิถุนายน (5)
    • ►  พฤษภาคม (11)
    • ►  เมษายน (16)
    • ►  มีนาคม (9)
    • ►  กุมภาพันธ์ (40)
    • ►  มกราคม (30)
  • ►  2012 (309)
    • ►  ธันวาคม (30)
    • ►  พฤศจิกายน (35)
    • ►  ตุลาคม (32)
    • ►  กันยายน (12)
    • ►  สิงหาคม (17)
    • ►  กรกฎาคม (39)
    • ►  มิถุนายน (33)
    • ►  พฤษภาคม (15)
    • ►  เมษายน (22)
    • ►  มีนาคม (25)
    • ►  กุมภาพันธ์ (23)
    • ►  มกราคม (26)
  • ►  2011 (246)
    • ►  ธันวาคม (27)
    • ►  พฤศจิกายน (15)
    • ►  ตุลาคม (50)
    • ►  กันยายน (56)
    • ►  สิงหาคม (26)
    • ►  กรกฎาคม (19)
    • ►  มิถุนายน (19)
    • ►  พฤษภาคม (25)
    • ►  มีนาคม (2)
    • ►  กุมภาพันธ์ (7)
  • ติดตาม
  • comments
  • สถิติ

ผู้ติดตาม

Follow @twitterdev

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Flag Counter hits counter
2014 Allmysteryworld. All rights reserved.
Designed by allmysteryworld