เรื่องราวนี้เคยได้รับการกล่าวถึงในเวปไซท์ต่างๆตั้งแต่ปี 2007 มาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนั้นมันยังดูฉงนน่าประหลาดใจ แต่ตอนนี้มันกำลังได้รับความสนใจยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับข้อมูลสนับสนุน ซึ่งมีทั้งหลักฐานและการเปิดเผยเพิ่มเติม ซึ่งหลายคนอาจคนคิดว่ามันไกลเกินที่จะเรียกว่า "ความจริง" ไปแล้ว และด้วยความสัตย์ซื่อของเรา, เบื้องต้นเราคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง จนพนักงานของเราที่นี่ (viewzone) ได้จัดหาหลักฐานจนพบแผ่นฟิล์ม จากเว็บไซต์ของนาซ่าเข้าจริงๆ (film strips from the NASA site) และพบว่ามีภาพของวัตถุนั้นอยู่ด้วยกันสองภาพ ถ่ายจากมุมที่แตกต่างกัน เราจึงได้จัดทำภาพจำลอง 3 มิติ เพื่อวิเคราะห์ขึ้นด้วย (ตาม VDO ด้านล่างนี้) ซึ่งภาพ 3 มิตินี้ จะแสดงรายละเอียดของวัตถุจริงบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ช้างล่างนี้เป็นสองภาพที่ถูกผสมกันในรูปแบบ 3-D image
ถูกเผยแพร่โดยภาระกิจของยาน Appollo 15
เป็นภาพ 3 มิติที่ชัดเจนแสดงรูปร่างและตำแหน่งของวัตถุที่ผิดปกติ
เพื่อดูภาพนี้ให้ชัดเจนจะต้องใช้แว่นตา 3D (สีแดงด้านซ้ายสีฟ้าด้านขวา
ภาพแสดงตำแหน่งที่พบวัตถุประหลาดบนดวงจันทร์
ขนาดของมันสูงกว่าครึ่งกิโลเมตร และอาจจะยาวกว่า 3.37 กิโลเมตรก็ได้ เห็นเป็นวัตถุที่ มีรายละเอียด มีความสมดุล และมีการออกแบบ แตกต่างจากสิ่งแวดล้อมและพื้นผิวที่อยู่รอบตัวมากทีเดียว
หลักฐาน VDO 16 มม.จากยานอะพอลโล่ 20 ที่กำลังเตรียมการลงจอดบนดวงจันทร์
ชุดนี้ถ่ายซูมจากกล้องที่มีความละเอียดสูงมาก เรื่องราวความเป็นมา : เป็นเรื่องราวที่ได้มาจากคนที่อ้างว่าเขาอยู่ในภารกิจพิเศษของ NASA : William Rutledge : ซึ่งขณะนี้ใช้ชีวิตอยู่ในแอฟริกา เขาเพิ่งออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่น่าตื่นตาตื่นใจ กับ NASA ในช่วงปลายยุค 70s ที่ผ่านมา Rutledge อ้างว่าได้ทำงานอย่างน้อยสองภารกิจไปดวงจันทร์ รวมถึงไม่ Apollo 19 และ Apollo 20 ซึ่งเขากล่าวเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 1976 จาก Vandenberg Air Force Base ภารกิจเหล่านี้ Rutledge บอกว่าเป็นการจัดภารกิจด้านอวกาศร่วมกัน รัฐบาลที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต พวกเขาจะไม่ปรากฏในบัญชีรายชื่อของคณะ NASA ใดๆ (-- และถ้าเป็นความจริง -- ก็มีเหตุผลดี) วัตถุประสงค์ของภารกิจนี้คือการตรวจสอบวัตถุขนาดใหญ่ที่ด้านไกลของดวงจันทร์ ในภูมิภาค Delporte - Izsak, การค้นพบและถูกกล่าวว่าถ่ายภาพได้ในช่วง Apollo 15 ภารกิจสำรวจวัตถุที่มีลักษณะคล้ายยาน"X - Wing ในการรบ"ตามที่เห็นในหนัง Star Wars เป็นยานอวกาศของคนต่างดาวซึ่งมีขนาดใหญ่มากลำหนึ่งที่ประสบเหตุหรือถูกทิ้งไว้ บนดวงจันทร์ในสมัยโบราณ
เรื่องราวของการกู้ซาก EBE หญิง (ตอนที่ 1) Rutledge ให้การว่าพวกเขา (กับนักบินอวกาศ, Lexei Leonov ) ลงจอดด้วยยาน Lunar Module (ของรัสเซีย) ใกล้เรืออวกาศต่างดาว และเข้าไปสำรวจมันจริงๆ แน่นอนว่ามีบางอย่างถูกค้นพบและกู้ออกมาหลายชิ้น รวมทั้งพบสองคนที่เป็นนักบินในนั้นด้วย "หนึ่งในนั้นสภาพดีและปรากฏเป็นหญิง ตัวที่สองนั้นเสียหายเสี่อมสภาพไปมาก และเราดึงมาได้เพียงศีรษะเท่านั้น หญิงที่เราพบนั้นเราขนานนามให้เขาว่า "Mona Lisa " "เราเข้าไปข้างในยานอวกาศขนาดใหญ่ เข้าไปส่วนที่เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ที่เป็นส่วนสำคัญของการสำรวจ มันเป็นเรือแม่ที่ดูเก่ามาก ราวกับข้ามจักรวาลแล้วมาไม่น้อยกว่าพันล้านปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ในนั้นมีสัญญาณหลายเกี่ยวข้องกับทางชีววิทยา ภายในนั้นยังคงเดิม มีพืชอยู่ในส่วนของมอเตอร์ด้วย มีหินรูปสามเหลี่ยมพิเศษ ที่ปล่อยของเหลวคล้ายน้ำตา เป็นของเหลวสีเหลืองที่มีคุณสมบัติพิเศษทางการแพทย์บางอย่าง และแน่นอนว่ามีสัตว์ที่มีเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดพิเศษประกอบอยู่ด้วย เราพบชิ้นส่วนของมันยาวราว 10 เซนติเมตร อยู่ในระบบของหลอดแก้วตลอดทั้งเรือ แต่การค้นพบที่สำคัญก็คือ "ร่างทั้งสองนี้" มีความสำคัญเป็นที่สุด
เรื่องราวของการกู้ซาก EBE หญิง (ตอนที่ 2) Mona lisa ผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อสาวคนนี้ Leonov หรือฉัน เธอเป็น EBE Humanoid ที่สมบูรณ์ไม่บุบสลาย สูง 1.65 เมตร มีอวัยวะสืบพันธุ์, มีผม, มีนิ้วข้างละหกนิ้ว (เราเดาว่าคณิตศาสตร์ของเขาจะเป็นเลขฐาน 12 ) ในส่วนหน้าที่ของนักบิน มีอุปกรณ์การนำทางคงใช้นิ้วมือและตาควบคุม เสื้อผ้าไม่มี เราต้องตัดท่อสองสายที่เชื่อมต่อกับจมูกออก ปรากฎว่าเขาไม่มีรูจมูก Leonov เปิดอุปกรณ์ที่ตาออก (ซึ่งคุณจะเห็นจากวิดีโอ) มีส่วนผสมของเลือดหรือของเหลวทางชีวภาพที่เย็นๆประทุขึ้นจากปากจมูกที่ตาและบางส่วนของร่างกาย มีบางส่วนของร่างกายอยู่ในสภาพดีจนผิดปกติ, ผมและผิวมีการเคลือบผิวด้วยชั้นวัสดุที่โปร่งบางใสป้องกันอยู่ ในขณะที่เราแจ้งภารกิจนี้ไปที่ศูนย์ควบคุม เธอก็อยู่สภาพที่เหมือนตายและไม่ตาย (not dead not alive) เราไม่เคยมีภูมิหลังหรือประสบการณ์ทางการแพทย์กันมาก่อน ผม และ Leonov ได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆด้าน bio เพื่อทดสอบดูกับ EBE โดยได้รับคำแนะนำ จากศัลยแพทย์ที่ชำนาญงานจากศูนย์อำนวยการ ผลการทดสอบแจ้งว่าเป็นบวก (มีชีวิต) เรื่องทั้งหมดนี้บางส่วนอาจฟังดูไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมต้องการบอกเรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อวิดีโอชุดนี้ออนไลน์ ประสบการณ์ที่เล่าให้ฟังนี้ได้รับการบันทึกถ่ายทำใน LM และเรื่องของตัวที่สองนั้น (ตัวที่เสียหายมาก) เราได้นำศีรษะเขาขึ้นให้คณะกรรมการดู เขามีสีผิวเป็นสีเทาอมฟ้า ผิวมีรายละเอียดบางอย่างแปลกตา โดยเฉพาะที่ด้านบนของตาและด้านหน้ามีสายรัดรอบหัวใส่คำจารึกด้วย ภายในห้องนักบินนั้นก็เต็มไปด้วยข้อความเขียนด้วยลายมือบรรจง และมีหลอดใสกึ่งหกเหลี่ยมยาวๆเต็มไปหมด "Mona Lisa " เธอยังอยู่บนโลกใบนี้และเธอยังไม่ตาย ผมจะโพสต์วิดีโออื่นๆ ก่อนที่จะบอกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ ผู้สัมภาษณ์ William Rutledge
EBE เป็นชื่อที่ย่อมาจากคำว่า Extraterrestrial Biological Entities ซึ่งน่าจะแปลว่า "สิ่งมีชีวิตทางชีววิทยาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีภูมิปัญญาสูง" อะไรประมาณนั้น (ภาษาอังกฤษแบบ snake fish fish น่ะครับ ) สรุปว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลายปี ราวๆยุค 70S ช่วงโครงการอะพอลโล่ 15-20 และมีการเปิดเผยขึ้นอีกครั้ง เมื่อราวๆ สิงหาคม ปี ค.ศ.2008 มานี้เอง โดยบุคคลวงใน (ที่อ้างว่าเป็นนักบินอวกาศนอกสำรวจ) ที่ไปสำรวจยานอวกาศลำดังกล่าวที่อับปางอยู่บนดวงจันทร์ จะเห็นว่าภาพที่ถ่ายทำก็เป็นฟิลม์ 16 มม. ฉากหลังก็อยู่บนยานอวกาศของมนุษย์ ใบหน้าผู้หญิงนั่นก็ดูคล้ายมนุษย์ แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว.. ก็มีหลายๆอย่างที่น่าสนใจอยู่ เลยต้องแปลเพื่อปะติดปะต่อเรื่องหน่อย ถือว่าน่าสนใจและดูสมจริงดีทีเดียวนะครับเรื่องนี้ ไปเจอข้อมูลสำคัญเข้านะครับ มีนักบินอวกาศและเจ้าหน้าที่ในองค์การนาซ่าด้านภาพถ่ายที่เคยร่วมงานกับ Luna Project (ช่วงกลางปี คศ. 1965) ออกมาเปิดเผยอีกครับว่า เหตุที่นาซ่าไม่ส่งยานออกไปสำรวจที่ดวงจันทร์ในระยะหลังๆมานี่ เพราะรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่ที่ด้านหลังดวงจันทร์นั่นจริงๆ พบทั้งสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตาในหลุมเครเตอร์ และบนพื้นผิวดวงจันทร์คล้ายๆฐานทัพ มีหอคอยสูงๆจำนวนมาก พบกลุ่มเมฆสีม่วงรวมทั้งยานอวกาศซึ่งก็มีอยู่ที่นั่นจริง ซึ่งทางนาซ่าได้ทำการแก้ไขลบภาพที่นำออกสู่สาธารณะชนออกไปจนเกือบหมด จะเห็นได้จากภาพ VDO ชุดนี้ครับ
แหล่งข้อมูล
______________________
แปลโดย
______________________