สถานที่สุดหลอน ทั่วโลก 13. ห้องโถง Raynham – นอร์ฟอล์ก อังกฤษ
ห้องโถงนี้อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง แถบชานเมืองของ ประเทศอังกฤษ ชื่อเสียงโด่งดังมาจากรูปถ่ายติดวิญญาณแห่งตำนาน ที่ชื่อว่า Little Brown Lady of Raynham สันนิษฐานว่าหญิงในภาพน่าจะเป็น โดโรธี ภรรยาของ ชาร์ลส์ ทาวนเซนด์ ผู้ซึ่งเคยเป็นเจ้าของบ้าน ตามตำนานเล่าว่า โดโรธี ถูกขังไว้ในบ้าน เนื่องจากสามีจับได้ว่าเธอคบชู้ โดยกีดกันไม่ให้พบกับลูกๆ ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายที่บันได ในช่วงพลบค่ำ ในปี 1936 โดย Country Life magazine
สถานที่สุดหลอน 12. อุโมงค์กรีดร้อง – น้ำตกไนแองการา แคนาดา
ใครจะคิดว่า สถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม จะมีความสยองแฝงอยู่ โดยข้อมูลเชิงลึกนั้นปรากฏหลักฐานของอุโมงค์ลึกลับ เรียกกันว่า อุโมงค์กรีดร้อง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของน้ำตกไนแองการ่า อุโมงค์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างทางรถไฟ ช่วงต้นยุค 1900 ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ตำนานของวิญญาณหลอนล้วนเกี่ยวกับเด็กสาวซึ่งถูกไฟคลอกตายภายในอุโมงค์ เล่ากันว่า ถ้าจุดไม้ขีดในตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว โหยหวนดังก้อง สะท้อนภายในอุโมงค์ จนกระทั่งไฟดับ!
สถานที่สุดหลอน 11. เรือสำราญคิวแมรี 2 – แคลิฟอร์เนีย สหรัญอเมริกา
เรือคิวนาร์ด เปิดตัวครั้งแรกในปี 1936 ใช้รับส่งผู้โดยสารชั้นดีข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก หลังปลดประจำการในปี 1968 ได้จอดถาวรอยู่ที่ลองบีช แคลิฟอร์เนีย และปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ในปี 1971 ความลี้ลับถูกค้นพบโดย ปีเตอร์ เจมส์ นักล่าท้าผี เล่าว่าเจอดวงวิญญาณมากกว่า 150 ตน หนึ่งในนั้นคือ วิญญาณของชายที่ถูกประตูหมายเลข 13 บดจนเละ สยองต่อด้วยผีสาวในชุดว่ายน้ำที่หลอนอยู่ในสระ ผวาอีกเมื่อเจอผีนักเต้น! ผสานเสียงเปียโนลึกลับ!
สถานที่สุดหลอน 10. โรงเรียนทหารฟิลิปปินส์ – บาเกียว ฟิลิปปินส์
เชื่อกันว่า โรงเรียนทหารเมืองบาเกียว ประเทศฟิลิปปินส์ มีวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากการถูกญี่ปุ่นยึดครองประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นักท่องเที่ยวเล่าว่าได้ยินเสียงรองเท้าย่ำบนลานสวนสนาม โดยปราศจากเหล่าทหาร บ้างก็เห็นวิญญาณในชุดเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทหารเต็มยศ หญิงชุดขาว และนักบวชหัวขาด!
สถานที่สุดหลอน 9. ถนนหลวงสาย 1140 – นิวออร์ลีน สหรัฐอเมริกา
นิว ออร์ลีน เมืองแห่งสีสันและสยองขวัญมากที่สุดของอเมริกา ความน่ากลัวที่ล่ำลือกันอย่างมาก คือ เรื่องของสองสามีภรรยา นางลาลอว์รี และ ด็อกเตอร์หลุยส์ ผู้ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย อยู่ที่ 1140 ถนนรอยัล นิว ออร์ลีน ตั้งแต่ปี 1832 โดยมีทาสเป็นชาวผิวดำเช่นเดียวกับบ้านหลังอื่น ต่างกันตรงที่เพื่อนบ้านเล่าว่า มักได้ยินเสียงกรีดร้อง และคนใช้บางคนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ในปี 1834 เรื่องราวลึกลับของทาสที่ถูกซ่อนเร้นก็ได้รับการเปิดเผยที่ห้องใต้หลังคา สถานที่ถูกพบว่ามีทาสนับสิบถูกจองจำทั้งในกรงและมัดติดอยู่กับโต๊ะ ส่วนของร่างกายเกลื่อนกลาดทั่วห้อง หัวและอวัยวะอื่นๆ ซุกอยู่ในถัง เป็นสุดยอดแห่งความสยองที่ทั้งเมืองต้องช็อค! สองสามีเผ่นหนีไปก่อนจะถูกจับได้ ใครที่ย่างกรายเข้าบ้านหลังนี้ จะต้องเจอเหล่าวิญญาณทาสชายผิวดำถูกล่ามโซ่ และทาสสาวซึ่งร่างกายเต็มไปด้วยรอยเฆี่ยน ส่งเสียงกรีดร้องชวนขนลุก!
สถานที่สุดหลอน 8. โคลอสเซียม – โรม อิตาลี
โคลอสเซียม สถาปัตยกรรมชื่อก้องโลก แห่ง กรุงโรม ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งสถานที่ลี้ลับที่สุด เมื่อ จูเลียสซีซาร์ ผู้กระหายเลือดบังคับให้เหล่านักโทษทางการเมืองต่อสู้กับสัตว์ป่าดุร้ายจนกระทั่งเสียชีวิต ทุกครั้งที่เยี่ยมชมบริเวณด้านล่างของโคลอสเซียม นักท่องเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือก ชวนขนลุก เหมือนมีบางอย่างมาสัมผัสร่างกาย พร้อมได้ยินเสียงดาบกระทบกัน เสียงคำรามของสิงโต แว่วผ่านหู และตลอดทางเหมือนถูกจับจ้องด้วยสายตาของทหารโรมันที่ยืนเฝ้าอยู่ตามซอกหลืบ!
สถานที่สุดหลอน 7. เรือนจำตะวันออก – ฟิลาเดเฟีย, เพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา
The East State Penitentiary เป็นอาคารที่มีราคาแพงที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นเรือนจำที่มีการควบคุมที่เข้มงวดที่สุดสำหรับขังอาชญากรตัวฉกาจ โดยใช้ระบบเพนซิลวาเนีย ด้วยหลักการที่ว่า นักโทษสมควรอยู่อย่างโดเดี่ยวอย่างยาวนานที่สุด เรือนจำแห่งนี้ถือสถานที่สยองขวัญที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา ผู้เยี่ยมชมมักจะได้ยินเสียงร่ำไห้ หัวเราะ และเสียงกระซิบรอดมาจากกำแพงโดยรอบ
สถานที่สุดหลอน 6. ปราสาทบัลลีกัลลี – ไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทบัลลีกัลลี ปราสาทเดียวที่ยังคงสภาพอยู่นับจากศตวรรษที่ 17 ทั้งยังถูกใช้เป็นที่พักอาศัย และร่ำลือกันว่าเป็นสถานที่ลี้ลับที่สุดแห่งหนึ่ง โดยผีชื่อดังที่สุดในปราสาทคือ Lady Isobel Shaw หญิงซึ่งกระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาวตัวน้อย เนื่องจากถูกสามีกักขังและสั่งอดอาหาร เหตุเพราะเธอไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายแก่เขา ผู้คนมักพบเห็นวิญญาณของเธอเดินไปมาที่ห้องโถงกลาง และคอยเคาะประตูห้องต่างๆ ยามดึก!
สถานที่สุดหลอน 5. หาดชางฮี – สิงคโปร์
สิงคโปร์ จัดว่าเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องลี้ลับ โดยเฉพาะ ชายหาดชางฮี ทางฝั่งตะวันออกของเกาะสิงคโปร์ ถูกกองทัพญี่ปุ่นใช้เป็นที่สังหารหมู่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวจีนกว่าพันคนถูกทรมานและฆ่าตายที่นี่ หลายคนมักได้ยินเสียงร้องไห้และกรีดร้อง ทั้งยังพบเห็นวิญญาณหัวขาดเดินอยู่บริเวณชายหาดชางฮี ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุดในเอเชีย!
สถานที่สุดหลอน 4. ปราสาทเอดินบะระ – สก็อตแลนด์
เอดินบะระ ปราสาทแห่งเมืองหลวงของสก็อตแลนด์ อายุ 900 ปี ตั้งอยู่บนยอดผาหิน มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องผีๆ และถือว่าเป็นสถานที่น่ากลัวที่สุดในยุโรป นักท่องเที่ยวเล่าว่า เคยเห็นวิญญาณเป่าขลุ่ย มือกลองหัวขาด ผีนักโทษสมัยสงครามจากหลายศตวรรษ และผีสุนัขเฝ้าสุสานหมาในปราสาท!
สถานที่สุดหลอน 3. สุสานใต้ดิน – ปารีส ฝรั่งเศส
ด้วยจำนวนประชากรของปารีสที่เพิ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ส่งผลให้หลุมฝังศพไม่เพียงพอ ทางการจึงต้องจัดการปัญหาด้วยการเก็บซากศพรวมกันไว้ใต้ดินบริเวณที่เคยเป็นเหมืองถ่านหินเก่า เล่ากันว่ามีซากไร้วิญญาณไม่ต่ำว่า 6 ล้านศพถูกฝังอยู่ในนั้น เป็นที่มาของความเฮี้ยนสุดหลอน ผู้มาเยือนมักถูกสัมผัสด้วยมือที่มองไม่เห็น และรู้สึกได้ว่ามีใครเดินตามหลัง บางรายเหมือนถูกบีบคอ หลอนหนักถึงขั้นเป็นโรคประสาท!
สถานที่สุดหลอน 2. ป่าแห่งความตาย อะโอกิกะฮาระ, ญี่ปุ่น
อะโอกิกะฮาระ ชื่อน่ารัก แต่ไม่ประทับใจนักสำหรับป่าทึบแห่งนี้ เป็นหนึ่งสถานที่สุดสยองของญี่ปุ่น และขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 30 คนต่อปี และมากถึง 100 รายในปี 2010 มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงนวนิยายเรื่อง “Nami no To” ของเซย์โช มัตสึโมโต้ ที่จัดฉากจบให้คู่รักอยู่ในป่าแห่งนี้ ทั้งยังมีความเชื่อว่าป่านี้เป็นศูนย์กลางของธรรมเนียมโบราณ “ยูบาซาเตะ” คือ การนำญาติพี่น้องที่แก่ชราหรือป่วยหนักไปทิ้งยังสถานที่ห่างไกลและปล่อยให้อดตายในที่สุด ป่าแห่งความตาย อะโอกิกะฮาระ จึงกลายเป็นแหล่งรวมวิญญาณนับร้อยที่คอยหลอกหลอนวนเวียนสถิตย์ทั่วป่า
สมรภูมิหลอนแห่งสงครามนองเลือด เพนซิลวาเนีย ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งสถานที่น่ากลัวที่สุดในอเมริกา ลือกันว่าเห็นวิญญาณเดินอยู่บนสนามหญ้า และได้ยินเสียงของการสู้รบพัดผ่านมาพร้อมสายลม หนึ่งในคลิปวิดีโอผีที่ดังที่สุดของปี 2001 ก็ถ่ายจาก สมรภูมิเกตตีส์เบิร์ก แห่งนี้ โดย ทอม อันเดอร์วูด ซึ่งอ้างว่าถ่ายติดวิญญาณลึกลับ!
ที่มา : http://travel.mthai.com/world-travel/39396.html
____________________
เครดิต : http://th.msn.com เรียบเรียง : travel.mthai.com
________________________________
อ้างอิง :
________________________________
loading...