เวลา ประมาณช่วง 4 ทุ่ม ผมนั่งทำงานอยู่ที่ห้องตามปกติ
สักพักผมก็เริ่มง่วง แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม้รู้ ....

ช่วงตี 2 ผมตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงทีวี ผมคิดว่าผมคงเปิดทีวีทิ้งไว้ ก็เลยปิดแล้วก็นอนต่อ 

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนประมาณเกือบ 6 โมงเช้า (นอนคนเดียว)

ผมเปิดคอมเพื่อดูงานที่ผมเขียนไว้เมื่อคืน ปรากฎว่า....งานยังคงไม่คืบหน้า ทั้งที่เมื่อคืนก่อนหลับไป 

จำได้ว่าผมเขียนไว้เกือบเสร็จแล้ว ผมนั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ว่า

ผมปิดคอมโดยที่ไม่เซปงานหรอ? 

เปล่าเลย ผมหลับคาหน้าคอมนิ และผมก็ไม่เคยตั้งให้มัน ชัดดาวน์เองด้วย
(โต๊ะคอมวางอยู่ปลายเตียง ผมใช้ตียงเป็นที่นั่ง)

แล้วทีวิเปิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
(ผมใช้คอมดูทีวีครับ โดยใช้ TV Box ต่อกับคอม)

เคยอ่านและดูหนังพวก มนุษย์ต่างดาว ที่เวลาพวกมันมา อุปกรณ์ อิลิกทรอนิก มักจะแปรปรวน หรือใช้งานไม่ได้

ตอนนั้น ผมก็คิดเล่นๆแบบหนุกๆ ว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไปทดลอง ก็ต้องพบรอยแผลซิ ผมดูมองตามร่างกาย ก็ไม่เจอ

แต่ว่าไอ้ที่คิดเล่นๆนี่ซิ ตอนอาบน้ำผมดันไม่เจอแผลจริงๆซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีบาดแผล 

มันเป็นแผลที่ พิลึกเสียด้วย อยู่บริเวรช่วงเอวด้ายซ้ายเยื้องไปด้านหลังนิดนึง ต้องใช้กระจกส่องดูถึงจะมองเห็น

ลักษณะคือ เป็นผื่นแดงขนาด เกือบ2 เซนติเมตร นูนขึ้นมาเล็กน้อย ตรงกลางหนังถลอกออกเหมือนไฟใหม้ เป็นวงกลม ประมาณ ครึ่งเซน บริเวรรอบๆแผลใหญ่ เป็นจุดแดงนูนเล็กน้อยเหมือนโดนสะเก็ด ไม่มีอาการเจ็บแต่อย่างใด
ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจจะไปนอนทับแมลงที่มีสารพิษก็ได้

อาบน้ำเสร็จผมดื่มกาแฟแก้วนึง ไปถึงที่ทำงานก็ดื่มนมจืดขวดเล็ก ขวดนึง
นั้นคือมื้อเช้า เกือบทุกวัน

ช่วง 9 โมง ผมปวดท้อง และเริ่มปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำงานไม่ได้
ตอนแรกคิดว่า อาจจะแพ้นม แต่ที่ผ่านมาไม่เคยแพ้นิ เข้าห้องน้ำก็ไม่ถ่าย
ช่วงเกือบเที่ยง ก็ท้องร่วงค่อยข้างรุนแรง วิ่งเข้าห้องน้ำหลายรอบ เล่นเอาตัวซีดชาเพลียเกือบตาย 

ช่วงบ่ายซื้อยามากินก็อเลยหาย

กลับถึงห้องผมก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองดัังนี้

1.คอมปิดไปได้อย่างไร ? ถ้าผมปิดเองแล้วทำไมถึงไม่เซปงาน
(อาจจะเป็นเพราะไฟตกหรือ)

2.ทีวีเปิดขึ้นมาได้อย่างไร? หลังคอมปิด
(หลังจากไฟตกผมอาจเผลอไปนอนทับรีโหมดหรือ)

3.บาดแผลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เป็น
(อาจนอนทับแมลงหรือ) แล้วตัวมันไหน? ทำไมถึงไม่เจ็บ? ผมอยู่ชั้น 10 ไม่เคยมีแมลงบินเข้ามาได้ ขนาดยุงแทบจะไม่มี

4.ทำไมถึงปวดท้องและท้องร่วง ค่อนข้างจะรุ่นแรง
(นมบูดหรือ)

ผ่านไป 1 วัน แผลเริ่มเจ็บ และพองเป็นถุงน้ำใสๆ เหมือนโดนของร้อน
สะเก็ดก็เป็นบางจุด ตอนแรกคิดว่าถ้ามันลุกลาม หรือถ้าเป็นมากกว่านี้ก็ต้องหาหมอแล้ว 

แต่ก็เริ่มหาย 2 อาทิตย์ ผ่านไปก็ยังไม่หายดี แต่มันก็เริ่มแห้ง แต่ก็ยังเจ็บนิดๆ ส่วนรอยแดงๆ กลับเปลียนเป็นสีดำ คงเป็นบาดแผลที่พิลึก ที่ทิ้งร่องรอยและจดจำไปอีกนานแสนนาน





หลังจากนั้นผมได้เมล์ เล่าเรื่องไปยัง ท่านอาจารย์ท่านหนึ่ง (ผมขออนุญาตินำมาเขียนในBlog )

ท่านตอบกลับมาดังนี้ 

ปรากฏการณ์ที่คุณเล่าให้ฟัง เรื่องการปิดเปิดได้เองของ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผมเองเคยประสบมา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน นับได้หลายสิบครั้ง ครับ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

ผู้ที่ก่อปรากฏการณ์ ดังกล่าว มีอยู่ 3 กลุ่ม 

1. เจ้าที่ อันได้แก่ ผีบ้านผีเรือน
2. ผู้ดูแล อันได้แก่ วิญญาณบรรพบุรุษ เทวดาที่ตนเคารพศรัทธา
3. มนุษย์ที่อยู่ต่างมิติ หรือ อาจจะเรียกว่า มนุษย์ต่างดาว ก็ได้

ส่วนเรื่อง บาดแผล ผู้ก่อปรากฏการณ์ ดังกล่าว หากไม่ได้เกิดจาก แมลงสัตว์กัดต่อย 

ก็น่าจะเป็น มนุษย์ที่อยู่ต่างมิติ ซึ่งการเกิดบาดแผลดังกล่าว ต้องย้อนไปดูก่อนว่า 

คืนนั้นฝันเรื่องอะไรมั๊ย ? เพราะหากว่าฝัน บาดแผล ที่เกิดขึ้น อาจจะได้รับจากการฝันเรียกปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า   การทะลุวิญญาณ

การทะลุวิญญาณ อันนี้ ผมขอเรียกดังนี้ เป็นเหตุการณ์ ที่ วิญญาณของคนเป็น ถูกกระทำ ในขณะไปอยู่ในมิติอื่น ไม่ว่าจะเป็น จากการฝัน หรือ จากการถอดวิญญาณ แล้วเกิดผล มาจนถึงร่างกายหยาบ เช่น เกิดอาการเหนื่อย ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เกิดเป็นรอยช้ำ เกิดเป็นบาดแผล เป็นอัมพาต หรือ อาจจะถึงเสียชีวิต (ซึ่ง ชาวบ้านจะเรียก ไหลตาย ทางการแพทย์จะเรียก หัวใจวายเฉียบพลัน)

และในกรณี ที่ไม่ได้ฝัน ก็แสดงว่า ร่างกายของเรา ถูกทดลองอะไรบางอย่างซะแล้วล่ะ 

ซึ่งก็อาจจะสอดคล้องกับ อาการท้องร่วง ในช่วงเช้า อาจจะเป็นเพราะร่างกายได้รับสาร หรือ รังสี 

หรือ พลังงาน หรือ อะไรซักอย่างเข้าไป ดูจากเหตุการณ์แล้ว น่าจะเป็น พลังงาน นะ 

เพราะเมื่อ คุณ กินอาหาร ที่มนุษย์โดยปกติกินเข้าไป ร่างกายกลับต่อต้าน จนต้องขับออกมาทั้งหมด 

ในเหตุการณ์ดังกล่าว นี้ หาก ดื่มน้ำหวาน หรือ น้ำส้มออกรสหวาน ร่างกายจะปรับตัวและคืนสภาพได้ไว ครับ หากไม่มีจริงๆ ก็ใช้น้ำเปล่า อุ่นๆ ก็ใช้ได้ ครับ และไม่ควรใช้น้ำอัดลม 

สิ่งที่สนทนามานี้ ก็เพียงเพื่อจะแลกเปลี่ยน และพอผ่อนคลายความสงสัย ครับ ที่ไม่เล่าให้ฟังในครั้งนั้น ก็เพราะคิดว่า เรื่องการติดในนิมิต มีความสำคัญยิ่ง ที่ควรจะได้พูดคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ ที่ถูกต้อง ครับผม



ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________