อัปเดทข้อมูลเก่าๆ มาให้ชมกัน...ที่เกี่ยวพันธ์กับ ปี 2012
เดือนธันวาคม ค.ศ. 2000
ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดินแล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ
ทิ้งรอยไหม้จนหินละลายซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยา
แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกาที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อน
อย่างไม่น่าเชื่อนอกจากแสงลึกลับแล้ว
ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว
ล่าสุดเมื่อปี 2002เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน
ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง
และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วยชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้
ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่าเขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง
มนุษย์ต่างดาวของโอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัมแต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง
ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจางโดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อน ขวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตาแมว
ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีที
โอลิเวียล่าบอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่าเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขา
ทางโทรจิตเหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002
คืนนั้น โอลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอนทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเพดานไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆเขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น
และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาวโอลิเวียร่า
บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิต
ผ่านแสงพลาสม่าว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว
โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา
ค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น.เพื่อนบ้านใกล้เคียงของโอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจ
ที่ได้ยินเสียงอะไรร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา
เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆตกลงมาจากท้องฟ้า
หลายคนช่วยเก็บก้อนหินบางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย
เขาเล่าว่าในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสงสีม่วงสว่างไปทั้งห้อง
แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดานรู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก
แต่ไม่มีความเจ็บปวดครั้นลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไปลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น
เมื่อไปถึงยานต่างดาว(ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร )เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่
ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น
จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูงก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน
ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุดที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ
อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลกระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา
มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012( พ.ศ. 2555) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่
ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาลในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก
ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน
สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ทั่วหน้ากันโลกของเราจะปั่นป่วนด้วยพายุสุริยะ
ทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้นคำทำนายของมนุษย์ต่างดาวที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้น
จะเป็นจริงหรือไม่
น่าแปลกที่ว่าวันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วยอีกไม่กี่ปีเราคงจะได้เห็นปรากฎการณ์นั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างทั้งหมดนี้ ที่ฟังมานี้ ต่างต้องล้วนใช้วิจารณญาณ
loading...